โดยที่หอประชุมเอนกประสงค์กาญจนาภิเษก ซึ่งพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาพิเศษ เรื่อง การขับเคลื่อน Thailand 4.0 ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เจ้าหน้าที่ ทหาร ตำรวจ ตรวจค้น นักเรียน นักศึกษา บุคคลทั่วไป ที่เข้าร่วมงาน อย่างเข้มงวด เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ ไม่คาดคิด เหมือนการลงพื้นที่ของนายกรัฐมนตรี เมื่อครั้งมาตรวจเยี่ยม ช่วยภัยแล้ง เมื่อปี 2557
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้พบกับนางสาวกิตติรัตน์ ชุมแก้ว นักเรียนโรงเรียนขอนแก่นวิทยายนต์ ที่ได้คะแนนแอดมิชชั่นอันดับหนึ่งของ คณะนิติศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และยังได้พบกับนักเรียนที่สอบโอเน็ต คะแนนเต็ม 100 วิชาคณิตศาสตร์ พร้อมมอบทุนการศึกษา เพื่อใช้เป็นทุนในการเล่าเรียน ขณะที่การปาฐกถาพิเศษ ของนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวชื่นชมเด็กนักเรียน ว่าเป็นคนที่สร้างชื่อเสียง และความภาคภูมิใจใ้ห้กับจังหวัด พร้อมขอบคุณมหาวิทยาลัยขอนแก่น ที่ผลิตบุคคลากรที่มีคุณภาพให้กับประเทศ
สำหรับงานวิจัย อยากให้ขับเคลื่อนสร้างมูลค่า นำไปต่อยอด และควรจะนำงานวิจัยที่อยู่ในกลุ่มงานเดียวกันมารวมกลุ่มกัน เพื่อที่รัฐบาลจะได้จัดสรรงบประมาณ ได้ตรงเป้าหมาย เพื่อขับเคลื่อนประเทศไปสู่ไทยแลนด์ 4.0
ทั้งนี้รัฐบาลเข้ามาเพื่อจะแก้ไขปัญหาทุกอย่างแบบตัดเสื้อให้พอดีตัว คือการแก้ไขปัญหาให้เหมาะกับประเทศไทย โดยเแพาะการแก้ปัญหาความยากจน ที่มีผู้มีรายได้น้อยมาลงทะเบียน 14.9 คน ทำให้รัฐบาล ต้องนำปัญหามาพิจารณาถึงเหตุที่ยังมีรายได้น้อยอยู่เป็นจำนวนมาก เพื่อแก้ไขปัญหาให้ตรงจุด ไม่ติดกับดักเหมือนเดิม จึงอยากให้ทำสิ่งใหม่เพื่อการเปลี่ยนแปลงในอนาคต สอดรับกับโลกศตวรรษที่ 21 ซึ่งก้าวจากการเปลี่ยนจากสังคมเกษตรไปสู่อุตสาหกรรม หรือ ยุค 1.0 ถึง 3.0 เป็นการนำงานวิจัยและพัฒนาไปเพิ่มมูลค่า โดยใช้ปัญญาประดิษฐ์ ซึ่งเป็นยุค 4.0 โดยยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง
นายกรัฐมนตรียังขอบคุณคนขอนแก่น ที่ตอบ 4 คำถามนายกรัฐมตรี มากที่สุด กว่าหมื่นคน และชี้แจงว่า การตั้งคำถามเพื่ออยากรับรู้ปัญหาของประชาชน ว่ามีความคิดเห็นอย่างไรของกรเปลี่ยนแปลงประชาธิปไตย และอยากให้ทุกคนช่วยกันตอบ เพื่อไม่ให้ถูกนำไปบิดเบือนว่านายกรัฐมนตรีตั้งคำถามแล้วไม่มีคนตอบ เช่นเดียวกับเรื่องร่าง พรบ.ประกันสุขภาพ ที่ถูกบิดเบือน ว่าจะเป็นการยกเลิกโครงการ 30 บาท รักษาทุกโรค ซึ่งไม่เป็นความจริง