เปิดเวทีภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พรรคการเมืองขานรับ ‘สวัสดิการเด็กเล็กถ้วนหน้า’ ชูนโยบายพัฒนาศูนย์เด็กเล็ก ปรับงบเพิ่มสวัสดิการเด็ก
ขอนแก่น เปิดเวทีรับฟังเสียงพรรคการเมือนโยบาย “สวัสดิการเด็กเล็กถ้วนหน้า” ตัวแทนพรรคการเมือง ร่วมเสนอนโยบายเพิ่มศูนย์เด็กเล็ก, แจกเงินคุณแม่, เตรียมเงินอุดหนุนเด็กเล็กถ้วนหน้า โครงการขับเคลื่อนนโยบายสวัสดิการเด็กเล็กถ้วนหน้าเตรียมเดินหน้าต่อเปิดเวทีทั่วประเทศ
เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2566 ที่ ห้องประชุม อบจ. ขอนแก่น อ.เมือง จ.ขอนแก่น นายธาดา พรหมสาขา ณ สกลนคร รองนายก อบจ.ขอนแก่น เป็นประธานเปิดเวทีเสวนา “สวัสดิการเด็กเล็กถึงเวลาถ้วนหน้า” โดยมี นางมีนา ดวงราษี มูลนิธิเพื่อสุขภาพชุมชน ,น.ส.พิณทอง เล่ห์กันต์ นักวิจัยและประเมินผลอิสระ ,ตัวแทนพื้นที่ริมรางรถไฟเขตเทศบาลนครขอนแก่น ,ตัวแทนพื้นที่ตำบลบึงเนียม ,นางปรียานุช ป้องภัย ประธานสภาผู้ชมและผู้ฟังรายการไทยพีบีเอส ,นางพรทิพย์ มังกร สมาชิกสภาเทศบาลตำบลสังขะ จ.สุรินทร์ ,น.ส.จิราภรณ์ จงสถิตรักษ์ มูลนิธิไทอาทร ,น.ส.นลินนิภา พลเสน ประธานสภาเต็กและเยาวชนฯ จังหวัดอุดรธานี ,อาจารย์สุนี ไชยรส ประธานคณะทำงานเด็กเล็กถ้วนหน้าฯ, น.ส.ศศินันท์ ธรรมบิฐินันท์ ส.ส.พรรคก้าวไกล ,นายวีรนันท์ ฮวดศรี ส.ส. ขอนแก่น เขต 1 พรรคก้าวไกล,นายณัฐวุฒิ กรมภักดี กป.อผช.ภาคอีสาน ผู้ดำเนินรายการ และผู้ปกครองเด็กเล็ก ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ร่วมงาน
นายวีรนันท์ ฮวดศรี ส.ส. ขอนแก่น เขต 1 พรรคก้าวไกล กล่าวว่า ในการผลักดันเรื่องสวัสดิการถ้วนหน้า ทางพรรคก้าวไกลโดยส่วนตัว มีความคิดเห็นด้วย เพราะเป็นเรื่องที่พรรคให้การสนับสนุน และผลักดัน นโยบาย สวัสดิการถ้วนหน้าอยู่แล้ว อยู่ในประเด็นของเด็กเล็กพรรคก้าวไกล ผลักดันนโยบายเด็ก 0-3 ปี ได้รับเงินอุดหนุนเป็นเดือนละ 1,200 บาท คือในภาระหน้าที่ของผู้แทนราษฎร ในส่วนที่เรานั้นทำได้ก็คือในส่วนของสภา ที่เป็นวาระ วาระสำคัญ เพราะว่าหลังจากคุยกับหลายภาคส่วน โดยเฉพาะพ่อแม่ผู้ปกครอง ที่มีลูกหรืออยากมีลูกในยุคปัจจุบัน การมีลูก 1 คน มีปัญหาภาระค่าใช้จ่ายสูงมาก และอัตราการเกิดก็มีส่วนลดลง เป็นอย่างมากเพราะ 1.มีภาระ คือภาระผูกพันระยะยาว ในการดูแลบุตร เรื่องนี้ก็มีว่า ภาระในส่วนหนึ่ง ผู้แทนราษฎรที่เข้าไปในสภาเพื่อผลักดัน สนับสนุนในเรื่องของกฎหมาย ที่เกี่ยวกับเรื่องของสวัสดิการ ถ้วนหน้าในการดูแล ทุกช่วงวัยจริงๆ
นายวีรนันท์ กล่าวอีกว่าส่วนขบวนการในการผลักดัน ดูแลตรงนี้ในส่วนที่ตนเป็น ส.ส. จะดูแลในทุกขบวนการ ไม่ว่าจะในฐานะฝ่ายค้านหรือฝ่ายรัฐบาล ถ้าเราได้รับเรื่องจากพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะประเด็นเรื่องสวัสดิการถ้วนหน้า เรื่องของเด็กเล็ก หรือแม้แต่เรื่องสวัสดิการผู้สูงอายุ เราก็รับมาเพื่อช่วยผลักดันและยื่นวาระ กฎหมายเหล่านี้ซึ่งถือว่าเป็น วาระของประชาชน เข้าสภาเพื่อให้ได้รับการอนุมัติพิจารณาผ่านเป็นกฎหมาย คุ้มครองในเรื่องของสวัสดิการของประชาชนทุกช่วงวัย
ด้าน อาจารย์สุนี ไชยรส ประธานคณะทำงานเด็กเล็กถ้วนหน้าฯ และผู้ปกครองเด็กเล็ก กล่าวว่า จริงๆเรื่องมีมานานแล้วแต่ไม่ได้ถ้วนหน้าสักที เราต้องอาศัยตรวจสอบความจน ทำให้เด็กตกหล่นประมาณ 2 ล้านกว่าคน เราจึงเรียกร้องว่า ให้เงินอุดหนุนเด็กเล็กถ้วนหน้า ตั้งแต่ท้องถึง 6 ปี และในขณะเดียวกันเราขอเพิ่มจำนวนเงินสวัสดิการ 2. เราเรียกร้อง ให้พัฒนาเด็กเล็ก ขยายเวลารับเด็กลงไป จนกระทั่ง 6 เดือน 1 ปี เพราะว่าเด็กอยู่นอกโรงเรียนจนมากนี่ก็เป็น 2 เรื่องที่อยาก ผลักดัน
อาจารย์สุนี กล่าวด้วยว่าที่เราเคลื่อนไหวก็เพราะเราเสนอไป ตั้งแต่ตอนหาเสียงเลือกตั้ง ทุกพรรคการเมืองที่ขึ้นเวทีหาเสียง เราไปทั่วประเทศแล้วแต่ว่านโยบาย ยังไม่ออกมาครั้งนี้จึง มีการรณรงค์ ทั้ง4 ภาค ซึ่งเราก็จะไป เพื่อจะให้เสียงสะท้อนจากพื้นที่มาบอกว่ายังมีเด็กตกหล่นจำนวนมากในความเป็นจริง นั้นส่งผลอย่างไรต่อเด็ก ถ้ามีศูนย์เด็กเล็กที่เราพูดกัน ก็จะทำให้เด็กดีขึ้นได้อย่างไร
อาจารย์สุนี กล่าวเสริมว่าขอเสียงสะท้อนจากเมืองอีสาน ที่มาวันนี้หลายจังหวัด ในภาคอีสานและก็จะไปในทุกภาคอย่างวันนี้ ส่วนอันที่ 2 คือ ว่าจะมีผู้แทนจาก พ.ม.จังหวัด ต่อไปอาจจะมีรัฐมนตรี และมาจาก ส.ส. ในพื้นที่ ส่วนวันนี้ก็มีส.ส.จากพรรคก้าวไกลและจากพรรคเพื่อไทย มาร่วมรับฟังด้วย คือคนที่มาร่วมเคลื่อนไหวด้วยตลอด ความหวังของเราคือนายกรัฐมนตรี ต้องเปลี่ยนนโยบาย พ.ม.ต้องเปลี่ยนนโยบาย เงินอุดหนุนเด็กเล็กถ้วนหน้า และดูแลเด็กให้ครบถ้วน ให้เด็กตั้งแต่ 6 เดือนได้มีโอกาสที่จะเข้าศูนย์เรียนรู้ พ่อแม่ก็จะได้ไปทำงาน เป็นการลงทุนทางเศรษฐกิจที่คุ้มมาก
อาจารย์สุนี กล่าวท้ายสุดว่าอย่าไปคิดว่าการดูแลเด็กเป็นเรื่องไม่ใช่เรื่องเศรษฐกิจ เงินทุกบาททุกสตางค์ ในการดูแลจะทำให้เศรษฐกิจไทย หมุนเวียนอย่างดีมาก ส่วนเรื่องงบประมาณพูดกันแล้วก็จะบ่นมาโดยตลอด ไม่มีคำว่าพอ ตอนนี้ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจรัฐบาลชุดใหม่ ว่ารัฐบาลจะให้ใคร ซึ่งตอนนั้นเราก็พูดว่าของบจากทหาร หรือแบ่งงบจากที่อื่นมั่ง เพราะงบทหารยกตัวอย่าง 200,000 ล้านบาท งบ พ.ม.ดูแลตั้งแต่เกิด จนตายได้ 20,000 ล้าน ทำให้ไม่พอตลอดไป ถ้าในเชิงนโยบายของรัฐบาลไม่ตัดสินใจ มีผิดหวังนิดหน่อยว่า นโยบายที่แถลงต่อสภาไม่มีเรื่องสวัสดิการของเด็ก เราจึงต้องเดินหน้ากับทุก ทุกพื้นที่ และเราจะเข้าพบอีกครั้งหนึ่ง ที่กรุงเทพมหานคร เพื่อที่จะเสนออย่างเป็นทางการอีกรอบ ที่จริงเราก็แถลงเสร็จแล้วแต่จัดเวทีเสร็จเราก็จะแถลงอีกรอบนึง เพื่อเคลื่อนไหวพบนายกรัฐมนตรี อีกครั้งหนึ่ง และรัฐมนตรี พ.ม.อีกด้วย.