เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2560 ที่บริเวณลานหน้าอาคารสำนักงานตำรวจภูธรภาค 4 พลตำรวจตรี เจริญวิทย์ ศรีวนิชย์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 ได้แถลงข่าวการตรวจยึดรถยนต์คดีลักทรัพย์คดียักยอกทรัพย์ รถสวมทะเบียนหลอกขาย ให้กับประชาชนในเขตพื้นที่รับผิดชอบตำรวจภูธรภาค 4 และนำรถนยต์ส่งกลับให้กับผู้เสียหาย สำหรับการสืบสวนในช่วงระหว่างวันที่ 1 พฤษภาคมถึง 22 มิถุนายน 2560 สามารถตรวจยึดรถยนต์ที่เกี่ยวข้องในการกระทำความผิดได้ 16 คันประกอบด้วยคดีลักทรัพย์จำนวน 4 คัน คดียักยอกทรัพย์จำนวน 1 คัน รถยนต์สวมทะเบียนหลอกขายจำนวน 11 คันรวมมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นประมาณ 7.5 ล้านบาท โดยรูปแบบลักษณะการกระทำความผิดส่วนใหญ่ จะเป็นการกระทำความผิดเกี่ยวกับการสวมทะเบียนรถคือการนำแผ่นป้ายหมายเลขทะเบียนของรถอีกคันมาใช้กับรถอีกคันแล้วหลอกขายให้กับประชาชนทั่วไป โดยแจ้งว่าเป็นรถที่ถูกต้องตามกฎหมายเมื่อมีการตกลงซื้อขายกันก็จะมีจ่ายเงินดาวน์ไปส่วนหนึ่งประมาณ 50,000 ถึง 1 แสนบาทหรือบางคันก็จ่ายสดซึ่งหลังจากนัดส่งมอบรถแล้วผู้ขายจะให้ผู้ซื้อนำสำเนาเอกสารบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้านมอบกับให้มอบให้กับผู้ขายเพื่อไปดำเนินการโอนกรรมสิทธิ์จดทะเบียนกับขนส่งสุดท้ายผู้ขายก็มิได้กระทำการใดใดตามที่แจ้งไว้กับผู้ซื้อ ทั้งยังไม่สามารถติดต่อกับผู้ขายได้
พลตำรวจตรี เจริญวิทย์ ศรีวนิชย์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 ฝากประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนที่ต้องการซื้อรถยนต์มือสองราคา ถูกกว่าท้องตลาดทั้งที่ขายจากเต็นท์รถมือสองหรือจากกลุ่มบุคคลหรือจากกลุ่มบุคคลที่ติดต่อประสานงานนำมาขายนั้นจะต้องมีการตรวจสอบข้อมูลและข้อเท็จจริงจากตัวรถ ในเบื้องต้นก่อนเช่นตัวเลขรถ เลขเครื่องรถ แผ่นป้ายทะเบียนรถเป็นแผ่นภาพจริงหรือไม่สำเนาคู่มือจดทะเบียนมีรายละเอียดตัวเลขรถ เลขเครื่องตรงกับตัวรถหรือไม่แผ่น ทั้งนี้เพื่อจะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อของกลุ่มมิจฉาชีพ ต่อไป