นายกฯ พอใจการแก้ปัญหาการบินพลเรือน กำชับคมนาคมเร่งรัดงานตามแผนรองรับการตรวจสอบของ ICAO ก.ย.นี้ ยืนยันรัฐบาลทำงานทุกขั้นตอนอย่างเต็มที่ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในอุตสาหกรรมการบินไทย
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พอใจความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาการบินพลเรือน หลังได้รับรายงานว่า นับตั้งแต่ที่สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กทพ.) เริ่มตรวจสอบมาตรฐานเพื่อออกใบรับรองผู้ดำเนินการเดินอากาศใหม่ให้แก่สายการบิน เมื่อวันที่ 12 ก.ย.59 ขณะนี้มีสายการบินที่ได้ใบรับรองแล้ว 6 สายการบิน คือ สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส ไทยแอร์เอเชีย การบินไทย นกสกู๊ต ไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ และนกแอร์
“สายการบินของไทยทั้งหมดที่ได้รับใบรับรองไปแล้ว มีเส้นทางการบินระหว่างประเทศรวมประมาณร้อยละ 80 จากเส้นทางการบินระหว่างประเทศทั้งหมดของสายการบินสัญชาติไทย และภายในเดือน ก.ย.60 คาดว่าจะออกใบรับรองได้รวม 12 สายการบิน ส่วนที่เหลืออื่น ๆ ทั้งหมดจะตรวจให้แล้วเสร็จภายใน ม.ค.61 ซึ่งการตรวจและออกใบรับรองดังกล่าวเป็นเงื่อนไขสำคัญในการขอปลดล็อกธงแดงตามหลักเกณฑ์ของ ICAO ที่ไทยได้ดำเนินการควบคู่ไปกับการแก้ไขข้อบกพร่องที่มีนัยสำคัญต่อความปลอดภัย (SSC) จำนวน 33 ข้อ”
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้กำชับกระทรวงคมนาคมให้พยายามดำเนินการตามแผนที่วางไว้ โดยเฉพาะการยื่นเรื่องไปยัง ICAO ภายใน 30 มิ.ย.60 เพื่อให้ ICAO สามารถเข้ามาตรวจสอบตามที่ไทยร้องขอได้ในเดือน ก.ย.60 ซึ่งที่ผ่านมา กทพ. ได้แก้ไขข้อบกพร่อง SSC 33 ข้อ มาอย่างต่อเนื่อง ทั้งการปรับปรุงกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง ขั้นตอนการทำงาน คู่มือ Checklist แบบฟอร์มสำคัญ จัดการอบรมที่เหมาะสมให้กับพนักงานและผู้เชี่ยวชาญ โดยมีผู้เชี่ยวชาญจากสหราชอาณาจักรมาร่วมช่วยตรวจสอบในขั้นตอนต่าง ๆ จนถึงขณะนี้มีความก้าวหน้าเกือบครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว
นอกจากนี้ คณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบในหลักการร่าง พ.ร.บ.การบินพลเรือน พ.ศ. …ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิรูปกฎหมายเพื่อแก้ไขปัญหาระยะยาวด้านการบินของประเทศ หลังจากที่ไม่เคยมีการปรับปรุงมาเลยตั้งแต่ปี 2497 หรือกว่า 60 ปีแล้ว ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของ สนช. รวมทั้งยังได้ปฏิรูปองค์กรด้านการบินใหม่ด้วยการตั้งสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยและกรมท่าอากาศยาน เพื่อแยกอำนาจควบคุมและบริหารจัดการออกจากกัน เพื่อนำไปสู่การปลดล็อกธงแดงในที่สุด
“ICAO ชื่นชมความก้าวหน้าในการแก้ไขปัญหาการบินพลเรือนของไทย โดยนายกรัฐมนตรียืนยันว่ารัฐบาลได้ดำเนินการตามข้อกำหนดของ ICAO อย่างครบถ้วนเต็มที่ เพื่อแก้ปัญหาให้สำเร็จโดยเร็วและสร้างความเชื่อมั่นในอุตสาหกรรมการบินไทย เพราะรัฐบาลคำนึงว่า ทุกชีวิตมีค่า ความปลอดภัยของผู้ใช้บริการจึงเป็นสิ่งที่สำคัญสูงสุด”