ท่าเรือบกขอนแก่น Dry Port เพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันด้านโลจิสติกส์ระดับภูมิภาค
สถาบันชุณหะวัณเพื่อการพัฒนาธุรกิจเอสเอ็มอีอย่างยั่งยืน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน (มทร.อีสาน) ในฐานะหน่วยงานที่ปรึกษา ได้รับจ้างจากการท่าเรือแห่งประเทศไทยศึกษาวิเคราะห์ความเหมาะสมของการพัฒนาท่าเรือบก (Dry Port) ในพื้นที่บ้านโนนพยอม ต.ม่วงหวาน อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น และศึกษาความเป็นไปได้ในรูปแบบการลงทุนที่เหมาะสม
เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2566 ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดขอนแก่นืรายงานว่า ที่ ห้องรับรองขวัญเมือง ศาลากลางจังหวัดขอนแก่น นายปริญ นาชัยสิทธิ์ รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล อีสาน ประจำวิทยาเขตขอนแก่น,ผศ.ดร.บุญญาพร ดวงสา ผู้รับหน้าที่ผู้จัดการโครงการพัฒนาท่าเรือบก (Dry Port) ,ผศ.ดร.ปรีชา ศรีประภาคาร มหาวิทยาลัยมหาสารคาม เข้าเยี่ยมคารวะเพื่อหารือข้อราชการกับ นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ประเด็นสำคัญขึ้นหารือ อาทิ โครงการพัฒนาท่าเรือบก (Dry Port) โดยมี นายชินกร แก่นคง นายอำเภอน้ำพอง และ ที่ปรึกษาโครงการฯร่วมปรึกษาหารือ
ผศ.ดร.บุญญาพร ดวงสา ผู้รับหน้าที่ผู้จัดการโครงการพัฒนาท่าเรือบก (Dry Port) เปิดเผยว่าสถาบันชุณหะวัณเพื่อการพัฒนาธุรกิจเอสเอ็มอีอย่างยั่งยืน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน (มทร.อีสาน) ในฐานะหน่วยงานที่ปรึกษา ได้รับจ้างจากการท่าเรือแห่งประเทศไทยศึกษาวิเคราะห์ความเหมาะสมของการพัฒนาท่าเรือบก (Dry Port) ในพื้นที่บ้านโนนพยอม ต.ม่วงหวาน อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น และศึกษาความเหมาะสมและความเป็นไปได้ในรูปแบบการลงทุนที่เหมาะสมกับการท่าเรือฯ ในการพัฒนาท่าเรือบกในพื้นที่โครงการ โดย ผศ.ดร.บุญญาพร ดวงสา รับหน้าที่ผู้จัดการโครงการ ได้ให้ข้อมูลว่า “การที่การท่าเรือแห่งประเทศไทย ได้มอบหมายให้ทาง มทร.อีสาน รับงานนี้ เนื่องจากความพร้อมด้านยุทธศาสตร์ระบบรางของเรา
ผศ.ดร.บุญญาพร กล่าวอีกว่าโดยมีการจัดตั้ง สถาบันเครือข่ายโลจิสติกส์และการขนส่ง (Institute of Collaborative Logistics and Transportation) ขึ้นเพื่อสนับสนุนยุทธศาสตร์ด้านโลจิสติกส์และพัฒนาระบบขนส่งทางราง นอกจากนั้นยังมีการเรียนการสอนผลิตกำลังคนด้านระบบราง ที่ผ่านการรับรองจากสภาวิศวกร (กว.) อาทิ หลักสูตร ซ่อมระบบอาณัติสัญญาณ การออกแบบสถานี การจัดการสถานี วิศวกรรมโลจิสติกส์ เป็นต้น รวมไปถึงการเปิดสอนใน สาขาวิศวกรรมเครื่องกลระบบราง ไฟฟ้าระบบราง และโยธาระบบราง ตั้งแต่ปี 2557 ที่ วข.ขอนแก่น เป็นต้น
ผศ.ดร.บุญญาพร กล่าวด้วยว่าในด้านของทีมทำงานนั้น โครงการนี้ประกอบด้วยทีมผู้เชี่ยวชาญจากหลายหน่วยงาน อาทิ มหาวิทยาลัยขอนแก่น มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ภาคเอกชนด้านโลจิสติกส์ หน่วยงานราชการในพื้นที่ทั้งระดับอำเภอ ระดับจังหวัด และได้ประธานสภาอุตสาหกรรมกลุ่มภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มาเป็นที่ปรึกษาโครงการ ซึ่งภาคเอกชนโดยสภาอุตสาหกรรมจังหวัดขอนแก่นได้ขับเคลื่อนเรื่องนี้มานานหลายปี
ผศ.ดร.บุญญาพร กล่าวเพิ่มเติมว่าทางด้านการท่าเรือแห่งประเทศไทย โดยนายเกรียงไกร ไชยศิริวงศ์สุข ผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย ได้กล่าวว่า “โครงการพัฒนาท่าเรือบก (Dry Port) เป็นโครงการสำคัญที่บรรจุภายใต้แผนวิสาหกิจปีงบประมาณ 2566-2670 ภายใต้ยุทธศาสตร์หลักที่ 2 พัฒนาธุรกิจและสินทรัพย์ พร้อมทั้งพัฒนาศักยภาพทางการตลาดเพื่อแสวงหาโอกาสทางธุรกิจฯ โดยสอดคล้องกับนโยบายหลักของกระทรวงคมนาคม (คค.) ในการขับเคลื่อนและสนับสนุนการขนส่งหลายรูปแบบเชื่อมโยงการขนส่งทางบกและทางน้ำอย่างไร้รอยต่อ (Seamless Transport) และรองรับโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังระยะที่ 3 โดยเน้นว่า Dry Port ขอนแก่น ถ้าเกิดขึ้นจริงจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันด้านโลจิสติกส์ระดับภูมิภาค ตอนนี้เรารอไม่ได้โครงการนี้ควรเกิดขึ้นโดยเร็วที่สุด ไม่อย่างนั้นไทยจะสูญเสียโอกาสทางการแข่งขัน”
ผศ.ดร.บุญญาพร กล่าวในภาพรวมว่าโครงการดังกล่าวได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากท่านพ่อเมืองขอนแก่น นายไกรสร กองฉลาด ซึ่งได้ให้ความเห็นถึงศักยภาพและความพร้อมของเมืองขอนแก่น ซึ่งจังหวัดขอนแก่นมีความได้เปรียบในเชิงภูมิศาสตร์เป็นศูนย์กลางการคมนาคมในภูมิภาคอยู่แล้ว ถ้าโครงการนี้เกิดขึ้นจะส่งผลดีต่อผู้ประกอบการในการลดต้นทุนค่าขนส่ง เกิดการสร้างงาน สร้างอาชีพให้คนในชุมชนรวมถึงจังหวัดใกล้เคียง การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่เพื่อรองรับโครงการขนาดใหญ่ รวมถึงโอกาสที่จังหวัดขอนแก่นจะเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ระดับภูมิภาค เชื่อมโยงหลายประเทศซึ่งนับเป็นโอกาสที่ดีมากๆ และทางจังหวัดก็พร้อมให้การสนับสนุนในทุกมิติ”
ผศ.ดร.บุญญาพร กล่าวทิ้งท้ายว่า โครงการศึกษาวิจัยนี้ มีระยะเวลาศึกษาระหว่างเดือนกันยายน 2566 ถึง ต้นเดือนเมษายน 2567 ซึ่งในกระบวนการวิจัยนั้น หลังจากที่ทางวิจัยได้ศึกษาและพัฒนาข้อมูลตามขอบเขตงานที่ทางการท่าเรือกำหนด จะมีการจัดประชุมทดสอบความสนใจของนักลงทุน (Market Sounding) และการสัมมนารับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (Stake Holders) เพื่อให้โครงการมีความพร้อมสามารถไปใช้เป็นแนวทางการในการลงทุนและสามารถดำเนินการได้อย่างเป็นรูปธรรมสำหรับการท่าเรือแห่งประเทศไทยต่อไป.