ขอนแก่น คุมเข้มแหล่งผลิตพลุ ดอกไม้ไฟ ป้องกันอันตราย หลังเกิดเหตุเกิดเหตุพลุระเบิด
18 ม.ค. 67 นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น มอบหมายให้นายประจวบ รักแพทย์ ปลัดจังหวัดขอนแก่น พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองจังหวัดขอนแก่น ลงพื้นที่ไปยังร้าน “เซียนเมา ดอกไม้ไฟ ขอนแก่น” ตั้งอยู่เลขที่ 145 บ้านห้วยไผ่ หมู่ 1 ต.น้ำพอง อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นแหล่งผลิตพลุแสง สี เสียง บั้งไฟ ตะไรร่ม และดอกไม้ไฟทุกชนิด มีนายดำรงณ์ จันทรังศรี อายุ 45 ปี เป็นเจ้าของร้านและเป็นผู้จดทะเบียน โดยการลงพื้นที่ตรวจสอบ มีนายชินกร แก่นคง นายอำเภอน้ำพอง พร้อมด้วย ตำรวจ ฝ่ายปกครองอำเภอ และผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ร่วมติดตามตรวจสอบความเรียบร้อยและมาตรการความปลอดภัย โดยนายดำรงณ์ ได้นำใบอนุญาตประกอบกิจการมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ ซึ่งพบว่า มีการขออนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย ก่อนจะพาเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบดูภายในห้องเก็บวัสดุ อุปกรณ์ที่ใช้ในการทำพลุ ดอกไม้ไฟ และบั้งไฟ ซึ่งมีการแยกออกเป็น 5 ห้อง ประกอบด้วย ห้องเก็บอุปกรณ์ทางเทคนิค ห้องเก็บท่อสำหรับทำพลุ ห้องเก็บสารเคมีที่ใช้ทำเชื้อเพลิงของบั้งไฟ และห้องเก็บพลุไฟที่ผลิตแล้ว รวมทั้งตรวจสอบความพร้อมของถังดับเพลิงว่ายังสามารถใช้งานได้หรือไม่
นายประจวบ รักแพทย์ ปลัดจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า จากเหตุการณ์พลุระเบิด ในพื้นที่ ต.ศาลาขาว อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี ในช่วงบ่ายของวันที่ 17 ม.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตกว่า 20 ราย ทำให้ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น มีความเป็นห่วงสภาพการณ์ในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น ซึ่งมีแหล่งผลิตพลุ ดอกไม้ไฟ ที่ได้รับอนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย จำนวน 1 แห่ง ในพื้นที่ หมู่ 1 ต.น้ำพอง อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น ก็คือที่ร้าน “เซียนเมา ดอกไม้ไฟ ขอนแก่น” ซึ่งประกอบกิจการมาประมาณ 12 ปี จึงได้สั่งการให้ที่ทำการฝ่ายปกครองจังหวัดขอนแก่น ร่วมกับอำเภอน้ำพอง ลงมาตรวจสอบสภาพที่ตั้งของแหล่งผลิต ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า มีการขออนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย มีการต่อใบอนุญาตทุกปี โดยพื้นที่ตั้งอยู่บนเนื้อที่ประมาณ 1 ไร่ 2 งาน ห่างจากชุมชนประมาณ 400 เมตร มีการผลิตพลุ บั้งไฟ ขนาดเล็กสำหรับใช้ในงานเทศกาลในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น ส่วนสถานที่เก็บรักษาดอกไม้เพลิงและพลุไฟต่าง ๆ เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก 4 ห้อง มีคนที่ทำหน้าที่ในการผลิตทั้งหมด 2 คน แต่เพื่อความไม่ประมาท ได้กำชับให้ทางอำเภอลงพื้นที่มาตรวจสอบเป็นระยะ พร้อมกับกำชับให้ผู้ประกอบกิจการปฏิบัติตามกฎหมายและมาตรการด้านความปลอดภัย เพื่อไม่ให้เกิดเหตุร้ายขึ้น ซึ่งทางผู้ประกอบกิจการให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี.