บิ๊กทิน”ลงพื้นที่ขอนแก่น แก้ไขปัญหาปากท้อง และที่ดินของพี่น้องประชาชนชาวขอนแก่น

ประชาชนกลุ่มผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยภาคอีสาน และชาวอำเภอบ้านฝาง จังหวัดขอนแก่น ต้อนรับ ดร.สุทิน  คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระกรวงกลาโหม เพื่อยื่นหนังสือร้องเรียน แก้ไขปัญหาปากท้อง และที่ดิน ของกลุ่มเกษตรกรผู้เดือดร้อนจากทุกจังหวัดภาคอีสาน
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2567 ที่ บริเวณโรงเรียนบ้านห้วยหว้าวิทยาคม และสำนักงานกลุ่มผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยภาคอีสานหมู่ 8 บ้านห้วยหว้า ตำบลโนนฆ้อง อำเภอบ้านฝางจังหวัดขอนแก่น ดร.สุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระกรวงกลาโหม เป็นประธานมอบนโยบายพื้นฐานของ กระทรวงกลาโหม ให้กับข้าราชการตลอดจนผู้นำท้องถิ่น และเปิดสำนักงานผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยภาคอีสานและเยี่ยมเยียน พร้อมทั้งรับเรื่องราวร้องทุกข์ของกลุ่มเกษตรกรผู้เดือดร้อนจากทุกจังหวัดภาคอีสาน โดยมี นายพันธ์เทพ เสาโกศล รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวต้อนรับและกล่าวรายงาน พร้อมด้วยนายกานต์ ทองเสน นายอำเภอบ้านฝาง ,อาจารย์คำสังข์ พลหาญ  ประธานกลุ่มผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย ภาคอีสาน ตลอดจนประชาชนเกษตรกรชาวอำเภอบ้านฝาง คณะกรรมการกลุ่มฯ  ผู้นำวิสาหกิจชุมชน ผู้นำท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และประชาชน จำนวนมาก ร่วมให้การต้อนรับ

ดร.สุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระกรวงกลาโหม กล่าวมอบนโยบาย พื้นฐานของกระทรวงกลาโหมให้กับ ข้าราชการ ตลอดจนตลอดจนประชาชนเกษตรกรชาวอำเภอบ้านฝาง คณะกรรมการกลุ่มฯ  ผู้นำวิสาหกิจชุมชน ผู้นำท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และประชาชน กว่าพันคน ว่า วันนี้เวลาน้อย เมื่อกลับไปถึงกรุงเทพฯก็จะดูเอกสารแยกแยะว่าเกิดปัญหาอะไรขึ้น เท่าที่ทราบก็เป็นเรื่องทำกิน เรื่องเอกสารสิทธิ์ ซึ่งทุกเรื่องก็เป็นเรื่องใหญ่และอีกเรื่องคือ เรื่องหนี้สินปะปนมาบ้าง ซึ่งอันนี้เลยมันก็มีช่องทางปกติ ซึ่งรับเรื่องจากประชาชนโดยตรง ก็เข้าช่องนั้นก่อน แต่ถ้าเป็นกรณีใดที่เป็นเงื่อนไขเรื่องตั้งแต่ในอดีต ที่เคยรับฝากไว้ที่เป็นข้อตกลง ก็จะไปดูเรื่องข้อตกลงนั้นส่วนเรื่องไหนที่ยังไม่ได้ทำ หรือผลักดันให้เป็นไปตามข้อตกลง ก็จะไปดูแต่อาจจะมีบางส่วนแล้วที่ได้รับการดูแล ช่วยเหลือ ซึ่งเชื่อว่าน่าจะทำได้เพราะนโยบายของรัฐบาล นั้นได้เปิดให้อยู่แล้ว อีกทั้งคนทั่วไปก็เปิดให้อยู่แล้ว โดยเฉพาะกับกลุ่มเกษตรกร น่าจะเปิดให้ได้อยู่แล้ว สืบเนื่องมาจากการขยายพื้นที่ทำกินจากหนองวัวซอโมเดล พอที่จะขยายเข้ามาได้ไหม ในวันนี้

ส่วนอีกนโยบาย นั้นคือนโยบายการเอาที่ทหารซึ่ง ไม่ได้ใช้ประโยชน์ออกมาให้ประชาชน นำไปใช้ อันนี้นั้นก็กำลังทำรูปแบบหนองวัวซอโมเดลให้จบ และอีกโมเดลหนึ่งที่ไปทำคือที่จังหวัดหนองบัวลำภู เพราะตรงนั้นเป็นเขตพื้นที่ปฏิบัติการเดิมของ ผกค.เดิมทีเป็นที่ของกรมป่าไม้ เพราะฉะนั้นถ้าจบโมเดล 1 แล้ว การเดินหน้าทำงานก็จะเร็วขึ้น ผลสัมฤทธิ์ของหนองวัวซอ นั้นถือว่าเป็นตัวอย่างที่ดีมาก ทหารเขาก็สงวนไว้ในพื้นที่เฉพาะจำเป็น ถ้าไม่จำเป็นแล้วก็ยินดีที่จะให้ การให้ก็จะไม่ได้ง่ายอย่างที่เราคิด พอให้ปุ๊บก็ต้องให้คืนกลับ ให้กับเจ้าของที่ดินตัวจริงเช่น กรมที่ดิน, กรมธนารักษ์ ,กรมป่าไม้ เป็นต้น จากนั้นนำเข้าสู่ขบวนการ โดยที่ชาวบ้านไปพิสูจน์สิทธิ์ก่อน เมื่อไปพิสูจน์สิทธิ์กับกรมเหล่านั้น ถ้าเป็นของกรมจริงๆก็จะเช่า ไม่ใช่ว่าทหารให้แล้วจะได้เลย อันนี้ก็เป็นเรื่องที่มันช้า เพราะในตอนนี้ก็ผ่อนคลายได้เยอะ และลดราคาลงอีกเยอะ ในพื้นที่หนองวัวซอ และกาญจนบุรี จากค่าเช่าไร่ละ 200 บาท ลงเหลือ 20 บาท จึงพยายามหาทางช่วย จริงๆแล้วคิดถึงกองทุนช่วยเหลือเกษตรกร ว่าสามารถเอามาใช้ในการนี้ได้ไหม แต่ก็ลดลงได้เยอะ

ด้าน อาจารย์คำสังข์ พลหาญ ประธานกลุ่มผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย บ้านห้วยหว้า ตำบลโนนฆ้อง
อำเภอบ้านฝาง จังหวัดขอนแก่น  กล่าวว่า ในวันนี้คืออยากให้พี่น้องประชาชนได้มารับฟัง จากปาก ท่าน ดร.สุทิน  คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ว่าท่านมีแนวทางที่จะช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกร อย่างไหร เช่นของเราเป็นกลุ่มผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย เราไม่มีวัตถุประสงค์หลัก ในการเรียกเก็บเงินเก็บทอง แต่เพื่อ ช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกร ให้พี่น้องเกษตรกร นั้นรู้จักช่วยเหลือตนเอง มีการรวมกลุ่มรองรับ  เช่นมีระบบการออม ออมทรัพย์ประจำเดือน มีระบบฌาปนกิจ ช่วยเหลือลูกหลานพี่น้องที่อยู่ในครอบครัวและมีปัญหา โดยเฉพาะถ้าเรารวมกลุ่มกันได้ มีญาติพี่น้องสืบต่อกันไปเรื่อยๆ และรู้จักกันตลอดไป อันนี้คือจุดมุ่งหมายของฌาปนกิจ และอีกอย่างคือการส่งเสริมอาชีพวิสาหกิจชุมชน อันนี้สำคัญมากถ้าพี่น้องเรารู้จักทำงานเป็นกลุ่ม เข้าสู่ภาครัฐได้เช่น วิสาหกิจชุมชน หรือกลุ่มเกษตรกรต่างๆก็จะทำให้ ที่น้องเกษตรกรช่วยเหลือตนเองและดูแลชุมชนได้ สามารถทำงานเป็นธุรกิจเครือข่ายด้วยกันได้ ในเรื่องของเศรษฐกิจและก็ การดำรงชีพช่วยเหลือตนเอง โดยไม่ต้องไปพึ่งภาครัฐเพียงอย่างเดียว ซึ่งเป็นไปได้ยากมาก แต่อย่างไรตนก็ต้องพึ่งตัวเองให้มากที่สุด.