“ร.ร.อนุบาลขอนแก่น” คว้า 77 เหรียญทอง งานศิลปหัตถกรรม ระดับเขตฯ ครั้งที่ 72

โรงเรียน อนุบาลขอนแก่น โรงเรียนชื่อดังของจังหวัดขอนแก่น และระดับต้นๆของภาคอีสาน แสดงถึงผลสัมฤทธิ์ ของความเป็นเลิศด้านวิชาการและดนตรี กีฬา ของเด็กนักเรียน ระดับชั้นป. 1 ถึงป. 6 ที่นำชื่อเสียงมาให้กับทางโรงเรียน ในการแข่งขันงานศิลปหัตถกรรม ครั้งที่ 72 ระดับเขตพื้นที่การศึกษาของ (สพป.ขอนแก่น เขต 1) นำความปลาบปลื้ม ปิติยินดี มายังผู้ปกครอง คณะผู้บริหารคณาจารย์ และบุคลากร เป็นอย่างยิ่ง
เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2567 ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดขอนแก่นรายงานว่า สืบเนื่องมาจากเมื่อครั้งที่ ดร.อารยันต์ แสงนิกุล ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 1เป็นประธานเปิดการแข่งขันงานศิลปหัตถกรรมนักเรียน ครั้งที่ 72 ระดับเขตพื้นที่การศึกษา ประจำปีการศึกษา 2567 ในวันที่ 19 กันยายน 2567 ในการประกวดผลการปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice) ของกลุ่มเครือข่ายพัฒนการศึกษา ทั้ง 10 กลุ่มการประกวดผลการปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice) ของกลุ่มเครือข่ายพัฒนการศึกษา ทั้ง 10 กลุ่ม 128 โรงเรียน ซึ่งเป็นการนำเสนอผลสำเร็จของ การบริหารจัดการด้านการศึกษา ซึ่งสถานที่จัดการแข่งขัน มีทั้งหมด 4 จุด ได้แก่โรงเรียนอนุบาลขอนแก่น ,โรงเรียนสนามบิน, มหาวิทยาลัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และที่ค่ายลูกเสือแก่นนคร โดยผลการแข่งขัน ปรากฏว่า โรงเรียนอนุบาลขอนแก่น ภายใต้การอำนวยการของ นายประจวบศิริภักดิ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลขอนแก่น ชนะเลิศอันดับ 1 จำนวน 46 รายการ แยกเป็น เหรียญทอง 77 เหรียญเงิน 4 โดยส่งเข้าประกวดทั้งหมด 81 รายการ ของนักเรียนระดับชั้น ป. 1 ถึงป. 6 ในการนี้โรงเรียนสนามบินขอนแก่น ภายใต้การอำนวยการของ น.ส.อินทุอร โควังชัย รอง ผอ.รักษาการ ผู้อำนวยการโรงเรียนสนามบิน ได้เหรียญชนะเลิศอันดับ 1 จำนวน 28 รายการ แยกเป็น เหรียญทอง 98 เหรียญเงิน 18 และ 7 เหรียญทองแดง ( เป็นโรงเรียนขยายโอกาส ที่มี นักเรียนระดับมัธยมศึกษา1-3 เข้าแข่งขันรวมอยู่ด้วย)

ด้าน นายประจวบ ศิริภักดิ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลขอนแก่น กล่าวว่า จากสถิติ ในการแข่งขันวิชาการงานศิลปะหัตถกรรม ระดับเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 1นั้น โรงเรียนอนุบาลขอนแก่นได้รางวัลชนะเลิศ 77 เหรียญทอง เหรียญเงิน 4 เหรียญ ความสำเร็จของลูกในครั้งนี้เนื่องจากมีการเตรียมความพร้อมตั้งแต่เปิดภาคเรียนมา ซึ่งเรามองว่า คุณภาพของการศึกษานั้นจะส่งผลต่อผู้เรียน ประการแรกคือมีการเตรียมความพร้อมตั้งแต่เปิดภาคเรียน เตรียมความพร้อมนักเรียน เตรียมพร้อมครู และผู้ปกครอง ที่มีส่วนสำคัญมาก
ในเรื่องความสามารถของนักเรียนที่มั่นฝึกฝน ที่ตนได้พูดถึงเป็นประจำว่า พรสวรรค์ที่ติดตัวมาตั้งแต่คุณพ่อ,คุณแม่ แล้วส่งต่อมายังลูก เสร็จแล้วมาเติมเต็มกับคุณครูที่โรงเรียน อันนี้เรียกว่าเติมเต็มให้กับลูกนักเรียน เป็นการเสริมทักษะ และเป็นการต่อยอดให้กับพวกเขา พอมาถึงโรงเรียนแล้วลูกๆจะค้นพบความสามารถความถนัดของตนเอง เสร็จแล้วมาสู่ที่คุณครู ซึ่งเป็นคุณครูที่มีความเป็นอัจฉริยะ มีความพร้อม ความสามารถ และความถนัด ซึ่งไม่จำเป็นต้องจบวิชาเอก ด้านนั้นด้านนี้ โดยที่คุณครูนั้นมีความสามารถ ความเก่ง ความถนัด จะสาระไหนก็แล้วแต่ ที่สามารถถ่ายทอดไปสู่ลูกๆได้
ซึ่งตนเองได้เปิดโอกาสให้ครูผู้ฝึกสอน ผู้ฝึกซ้อมให้กับลูกๆได้ เปิดโอกาสให้กับทุกๆคนที่ฝึกสอนลูกๆให้มีความพร้อม ความถนัด เลิกจากการแข่งขัน และมีความสามารถ ในการฝึกประสบการณ์ ในการแข่งขันวิชาการ พอได้มีประสบการณ์ ในมีเรื่องนี้แล้วเด็กๆเหล่านี้ บางคนมีความเก่งหลายๆด้าน พอถ้าเก่งหลายด้าน แล้วเขาจะมีความคิดว่าตนเองชอบด้านใดมากที่สุด แล้วผู้ปกครองจะเป็นส่วนในการตัดสินใจว่าลูกๆนั้นมีความเก่งหลายๆด้าน แล้วแต่ลูกๆนั้นจะเลือกในด้านใดด้านหนึ่งที่คิดว่าชอบมากที่สุด ดีที่สุดสำหรับตัวเขา เสร็จแล้วผู้ปกครองมาฝึกฝนและมาต่อยอดให้กับลูกๆได้ ทั้งที่โรงเรียนและที่บ้าน

เพราะฉะนั้นแล้วลูกๆเหล่านี้เขาจะมีวินัยในตัวเอง นอกจากจัดการเรียนการสอนแล้ว การเรียนเขาก็จะโดดเด่น เรื่องกิจกรรมเขาก็จะโดดเด่น ทุกอย่างเขาก็จะมีความโดดเด่น เด็กกลุ่มนี้ถือว่าเป็นตัวแทนของโรงเรียน ถือว่ามีความพร้อม ถือว่ามีความอัจฉริยะในตัวเขา เด็กเหล่านี้ถือว่าเป็นต้นทุนให้กับโรงเรียน เด็กที่อยู่ในช่วงชั้น ป.1 จะเป็นต้นทุนในช่วงชั้น ป.2 ส่วนเด็กชั้น ป. 2 ก็จะเป็นช่วงสอบ o-net และสอบเรียนต่อ และสามารถวิเคราะห์ได้ว่าเด็กช่วงชั้น ป.1ได้ว่าเด็ก ป.3 เขาเก่งด้านนี้ เพราะในการแข่งขันวิชาการ เขาจะมีช่วงชั้นที่ 1 และช่วงชั้นที่ 2 เช่น อัจฉริยะภาพด้านคณิตศาสตร์ ทางโรงเรียนอนุบาลขอนแก่นได้ชนะเลิศ ช่วงชั้นที่ 1 แล้วเราจะมามองว่าเด็กกลุ่มนี้ เพื่อจะไปต่อยอดในช่วงชั้นที่ 2 มารยาทไทยชนะเลิศในช่วงชั้นที่ 1 เราก็จะมองว่าช่วงชั้นที่ 2 เขาต่อยอดได้ จะพยายามไม่ให้เปลี่ยนแปลง จะไม่เปลี่ยนกิจกรรมให้เขา เราต้องต่อยอดให้เขาเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกๆทุกคน
“ต้องขอขอบคุณคุณพ่อ คุณแม่ผู้ปกครอง ที่ให้ความร่วมมือ และให้ความสนใจ และสิ่งสำคัญยิ่ง ถ้าขาดคุณพ่อ คุณแม่ ผู้ปกครอง และหน่วยงานต้นสังกัด โดยเฉพาะผู้อำนวยการเขต ที่ได้ส่งเสริม และขอขอบคุณองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น ที่ได้สนับสนุนงบประมาณ และภาคีเครือข่ายต่างๆ ได้ส่งเสริมลูกๆให้แสดงออกถึงความรู้ความสามารถ ส่งเสริมทักษะเฉพาะด้าน ต้องขอขอบพระคุณมา ณ โอกาสนี้ด้วย” นายประจวบ กล่าว.