งานใหญ่ “วันเกษตรภาคอีสาน ปี 68” เกษตรสร้างสรรค์ ผลักดัน solfpower ยกระดับเกษตรทันสมัย สู่กาพัฒนาไทยให้ยั่งยืน คาดเงินสะพัดกว่า 1,000 ล้าน
มข. พร้อมจัดงานวันเกษตรภาคอีสาน ประจำปี 2568 ภายใต้แนวคิด ”
ชาการเกษตรสร้างสรรค์ ผลักดัเกษตรอีสานสร้างสรรค์. ผลักดัน Soft Power ยกระดับเกษตรทันสมัย. สู่การพัฒนาไทยให้ยั่งยืน เพื่อนำไปใช้ต่อยออดและยกระดับภาคการเกษตรสู่การพัฒนาขับเคลื่อนประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของเมล็ดพันธุ์พืชเขตร้อน (Tropical Seed Hub) 10 วันเต็ม ตั้งแต่ 24 มกราคม – 2 กุมภาพันธ์ 2568 มาเดินช้อป เดินชิม กันให้จุใจ แล้วอย่าลืม แวะไปถ่ายรูปกับแปลงดอกไม้สวยๆ กันด้วย ทุกๆ ปีก็จะมีทั้งโซนอาหาร, โซนแสดงนวัตกรรม, ต้นไม้และจัดสวน, สัตว์เลี้ยง, ของเบ็ดเตล็ด, เวทีการประกวดต่าง ๆ, KKU SMART Flower Farm และไฮไลต์เด็ดคือโซนอาหารที่ขนทัพร้านดัง
6 ม.ค. 68 ที่ห้องประชุม 5101 คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยชอนแก่น รองศาสตราจารย์ นายแพทย์ ชาญชัย พานทองวิริยะกุล รักษาการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น พร้อมด้วย รองศาสตราจารย์ ดร.ดรุณี โชติษฐยางกูร คณบดีคณะเกษตรศาสตร์, นายสิทธิพงศ์ ศรีสว่างวงศ์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาเมล็ดพันธุ์พืชขอนแก่น, นายกมล โสพัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 4 จังหวัดขอนแก่น, นายอิทธิพัทธ์ จำรัสบุญหิรัญ ผอ.ส่วนส่งเสริมและพัฒนาการปศุสัตว์, นางปราณี สีหบัณฑ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านวางระบบการพัฒนาที่ดิน กรมพัฒนาที่ดิน, นางสาวสุดคนึง พื่มชัย ผู้อำนวยการศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าว และนายสิทธิพงศ์ ศรีสว่างวงศ์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาเมล็ดพันธุ์พืชขอนแก่น ร่วมแถลงข่าวงานเกษตรภาคอีสาน ประจำปี 2568 ภายใต้แนวคิด เกษตรอีสานสร้างสรรค์. ผลักดัน Soft Power ยกระดับเกษตรทันสมัย. สู่การพัฒนาไทยให้ยั่งยืน
รองศาสตราจารย์ ดร.ดรุณี โชติษฐยางกูร คณบดีคณะเกษตรศาสตร์ มข.กล่าวว่า งานวันเกษตรภาคอีสานประจำปี 2568 มีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันศุกร์ที่ 24 มกราคม – วันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์ 2568 รวมระยะเวลา 10 วัน ณ อุทยานเทคโนโลยีการเกษตร มหาวิทยาลัยขอนแก่น ภายใต้คำขวัญ “เกษตรอีสานสร้างสรรค์ ผลักดัน Soft Power ยกระดับเกษตรทันสมัย สู่การพัฒนาไทยให้ยั่งยืน”
ที่ผ่านมา เกษตรกรมุ่งมั่นสร้างผลผลิตให้มีคุณภาพ แต่ราคายังตกต่ำ ทำให้การจัดงานในครั้งนี้ได้แนวคิด ในการเชื่อมโยงสินค้าการเกษตรไปสู่การกินอย่างสร้างสรรค์ นำไปสู่ Creative economy ด้วย Local wisdom อย่างแท้จริง ด้วยการเชิญ Food Stylist และเชฟที่ประสบความสำเร็จในการสร้างสรรค์เรื่องราว การกินของจังหวัดบึงกาฬมาจัด Chef’s Table สร้างสีสันภายในงานด้วย”
…สำหรับภายในงานผู้เข้าชมจะได้พบกับกิจกรรมมากมาย ทั้งนิทรรศการถ่ายทอดองค์ความรู้จาก 8 สาขาวิชาคณะเกษตรศาสตร์ การเสวนาและฝึกอบรมวิชาชีพทางการเกษตร การประกวดและแข่งขันภูมิปัญญาชาวบ้านและทักษะทางการเกษตร การประชุมวิชาการเกษตร ครั้งที่ 26 การจัดแสดงปลาและจัดแสดงพันธุ์สัตว์ ชนิดต่าง ๆ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง การให้บริการนำเที่ยวเชิงเกษตรบริเวณโดยรอบงานวันเกษตรภาคอีสาน โดยนักศึกษาคณะเกษตรศาสตร์ และการออกร้านจำหน่ายผลิตผลทางการเกษตรของนักศึกษา คณะเกษตรศาสตร์อีกด้วย. นอกจากนี้ ภาคีเครือข่ายหน่วยงานต่าง ๆ ก็ได้เตรียมไฮไลต์กิจกรรมไว้รอต้อนรับทุกคนตลอด 10 วัน นายสิทธิพงศ์ ศรีสว่างวงศ์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาเมล็ดพันธุ์พืชขอนแก่น ระบุว่า กรมวิชาการเกษตรเตรียมจัดนิทรรศการแบบมีชีวิต ภายใต้กรอบแนวคิด “วิชาการเกษตรสร้างสรรค์ ผลักดันคุณภาพผลผลิต ด้วยเกษตรทันสมัยนำอีสานเข้าสู่ศูนย์กลางเมล็ดพันธุ์พืชเขตร้อน” พร้อมกับ 4 กิจกรรมหลัก ได้แก่ นิทรรศการ “วันถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตพืชภาค อีสานตอนบน”, สวนพืชเรืองแสง, การแข่งขันทายปัญหาด้านวิชาการเกษตร พิชิตรางวัล DOA Seedling Box Set และกิจกรรมนักสำรวจ ตามหาความลับในการผลิตพืช
นายกมล โสพัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 4 จังหวัดขอนแก่น ระบุว่า กรมส่งเสริมการเกษตร พร้อมจัดนิทรรศการ “1 ท้องถิ่น 1 สุดยอดสินค้าเกษตรมูลค่าสูง” และร่วมออกร้านจำหน่ายสินค้า “สุดยอดของดี 20 จังหวัด” และสินค้าจาก “Young Smart Farmer” ซึ่งจะมีโปรโมชั่นพิเศษทุกวัน ตลอดจนกิจกรรมสาธิตฝึกทักษะทางการเกษตร “ส่งเสริมเกษตรอีสาน สร้างงาน สร้างเงิน ครั้งที่ 2” ที่วิเคราะห์ Pain point ของเกษตรกร เพื่อแก้ไขปัญหาให้ตรงจุด โดยผู้ร่วมกิจกรรมสามารถนำตัวอย่างที่ใช้ในการสาธิตกลับไปทำต่อที่บ้านได้ด้วย
ด้านกรมปศุสัตว์ในปีนี้ นายอิทธิพัทธ์ จำรัสบุญหิรัญ ผู้อำนวยการส่วนส่งเสริมและพัฒนาการปศุสัตว์ ระบุว่า จะมีเวทีแลกเปลี่ยนกลุ่มนักวิจัยด้านแพะ และกิจกรรม Roadshow Event กระตุ้นการบริโภคแพะภายในประเทศ (เมนู แพะแดดเดียว แพะหัน) จากกลุ่มเครือข่ายเกษตรกรทั่วประเทศ 16 กลุ่ม พร้อมกิจกรรมการประกวดแพะและกระบือ ชิงถ้วยพระราชทานฯ พร้อมด้วยนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติฯ การแสดงพันธุ์สัตว์ และมีการออกร้านจำหน่ายสินค้าของกลุ่มเกษตรกร
น.ส.สุดคนึง พึมชัย ผู้อำนวยการศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวขอนแก่น กล่าวว่า กรมการข้าวจะมีการร่วมจัดงานภายใต้สโลแกน “กรมการข้าวสร้างสรรค์ ผลักดันชาวนาอีสานทันสมัย สู่การพัฒนาข้าวไทย ให้ยั่งยืน” ประกอบด้วย การจัดแปลงสาธิตข้าว 3 สายพันธุ์ หนึ่งในนั้น คือ ข้าวทับทิมชุมแพ ที่เตรียมขึ้นทะเบียน GI ของจังหวัดขอนแก่น รวมถึงการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านพันธุ์ข้าว เทคโนโลยีใหม่ ๆ ด้านการผลิตข้าว การแปรรูปผลิตภัณฑ์จากข้าว และเวทีกิจกรรมอีกมากมาย
นางปราณี สีหบัณฑ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านวางระบบการพัฒนาที่ดิน กรมพัฒนาที่ดิน ที่เตรียมจัดนิทรรศการและกิจกรรมมีชีวิต ในหัวข้อ “การสร้างความรู้ ความเข้าใจ สถานภาพทรัพยากรดินภาคอีสาน” โดยแบ่งเป็น 4 โซนย่อย พร้อมจัดเวทีเสวนาแลกเปลี่ยนความรู้เรื่องดินจากผู้รู้จริง เพื่อให้เยาวชนและบุคคลทั่วไปรู้จักดินอีสานให้มากขึ้น ขณะเดียวกันยังเปิดพื้นที่ให้เกษตรสามารถนำดินในพื้นที่เพาะปลูก มาตรวจสอบค่ากรด-ด่างแบบรู้ผลได้ทัน พร้อมรับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญถึงวันละ 50 คนเลยทีเดียว
อย่างไรก็ตาม งานวันเกษตรภาคอีสาน ประจำปี 2568 ได้ย้ายพื้นที่จำหน่ายต้นไม้ภายในงานไปไว้บริเวณทิศใต้ของงาน เพื่อความสะดวกในการเลือกซื้อพันธุ์ไม้และความสะดวกในการขนส่ง และยังได้จัดให้มีบริการรถรับ-ส่ง สินค้าภายในบริเวณงานด้วย รวมถึงได้เนรมิตพื้นที่บริเวณทิศใต้ของงานจัดทำเป็นแปลงพืชพันธุ์ไม้ดอกเมืองหนาว (KKU Smart Flower Farm) ซึ่งประกอบไปด้วยแปลงดอกคัสเตอร์ ไฟเออร์เวิคหรือบานไม่รู้โรยญี่ปุ่น เวอร์บีน่าไฟเนส คอสมอส และแปลงนาข้าว 3 สี ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ยังได้ขยายสถานที่จอดรถ และดูแลความปลอดภัยอย่างเป็นระบบ เพื่ออำนวยความสะดวกผู้เข้าร่วมงานตลอด 10 วันพบกัน ณ อุทยานเทคโนโลยีการเกษตร มหาวิทยาลัยขอนแก่น
ด้าน รศ. นายแพทย์ ชาญชัย พานทองวิริยะกุล รักษาการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวว่า งานวันเกษตรภาคอีสาน กำหนดจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 33 ถือได้ว่าเป็นอีกงานหนึ่งที่จัดขึ้นเพื่อสนองตอบปณิธานและปรัชญาของมหาวิทยาลัยขอนแก่น ที่ว่าจะเป็นศูนย์รวมทางความคิด สติปัญญาสังคม และเป็นศูนย์รวมการศึกษาของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นกิจกรรมใหญ่อีกกิจกรรมหนึ่งของมหาวิทยาลัยขอนแก่นและของจังหวัดขอนแก่น ซึ่งงานวันเกษตรภาคอีสาน ถือได้ว่าเป็นต้นแบบการทำงานแบบบูรณาการร่วมกันอย่างยั่งยืนของภาคีเครือข่ายทุกหน่วยงาน ก่อให้เกิดการหมุนเวียนและเป็นแรงขับเคลื่อนในการช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจในจังหวัดขอนแก่นได้เป็นอย่างดี โดยเมื่อปี 2567 มีประชาชนเข้ามาร่วมงานกว่า 663,000 คน และมีเงินหมุนเวียนกว่า 747 ล้านบาท คาดว่าในปี 2568 นี้ จะมีคนเข้ามาเที่ยวงานกว่า 700,000 คน และเกิดเงินหมุนเวียนกว่า พันล้านบาท.