จับแล้ว 2 ราย ผู้ลักลอบเผาในที่โล่งแจ้ง ผู้ว่าฯ ขอนแก่น เน้นย้ำการป้องกันและลดการเกิดมลพิษที่ต้นทาง แก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5
27 ม.ค. 68 ที่ ห้องประชุมพระธาตุขามแก่น ศาลากลางจังหวัดขอนแก่น นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ,นายยุทธพร พิรุณสาร รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น พร้อมด้วยข้าราชการ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมติดตามการแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) จังหวัดขอนแก่น พร้อมร่วมรับฟังนโยบายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ผู้บัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ
นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า จังหวัดขอนแก่น ได้ดำเนินมาตรการแก้ปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 อย่างจริงจังต่อเนื่องมาโดยตลอด ตั้งแต่ปีที่ผ่านมา สถานการณ์จังหวัดขอนแก่นในวันนี้ อัตราการระบายอากาศอยู่ในเกณฑ์ปานกลาง ซึ่งโดยรวมในสัปดาห์นี้การระบายอากาศไม่ช่วยให้การสะสมของ PM 2.5 ลดลง ประกอบกับจังหวัดขอนแก่น ไม่มีฝนตกในพื้นที่เป็นเวลา 80 วัน ตั้งแต่สิ้นฤดูฝนปี 2567 สาเหตุปัจจัยที่เกิดฝุ่น PM 2.5 มีทั้งปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้และควบคุมได้ ปัจจัยที่ควบคุมได้ คือ การจราจร เป็นผลต่อการเกิดปัญหาฝุ่นควัน โดยเฉพาะช่วงเวลาเช้าและค่ำที่มีการจราจรติดขัด ซึ่งได้ดำเนินการแก้ปัญหาโดย ตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น เพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่เร่งระบายการจราจรในชั่วโมงเร่งด่วน
ในด้านการก่อสร้าง โครงการขนาดใหญ่ของรัฐและเอกชน ได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาโดยให้ผู้ว่าจ้าง กำชับผู้รับจ้างให้ทำความสะอาด ฉีดพรมน้ำอย่างต่อเนื่อง ส่วนอาคารก่อสร้างของภาคราชการและเอกชนที่มีการขนส่งวัสดุก่อสร้าง ต้องปิดคลุมรถไม่ให้มีวัสดุร่วงและฟุ้งกระจาย รวมทั้งหาวัสดุปิดกั้นอาคารก่อสร้าง ให้มีการตรวจจับจุดความร้อน และแจ้งไปยังอำเภอทุกอำเภอ เพื่อเข้าดำเนินการระงับการเผาในที่โล่ง ซึ่งพบการเผาในที่โล่งตั้งแต่พฤศจิกายน 2567 จนถึงปัจจุบัน เกิดการเผาจำนวน 672 จุด ได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาโดย ดำเนินโครงการตรวจจับ ปรับจริง ห้ามใช้รถยนต์ควันดำ เริ่มตั้งแต่ธันวาคม 2567 ถึงปัจจุบัน เรียกตรวจรถ 421 คัน ผ่านเกณฑ์ 376 คันไม่ผ่านเกณฑ์ 45 คัน ประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือประชาชนเกษตรกรงดเผาในช่วงนี้ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนระมัดระวังดูแลสุขภาพตนเอง โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง กลุ่มเปราะบาง โครงการตรวจสภาพรถยนต์ของส่วนราชการ โดยสำนักงานขนส่งจังหวัด แจ้งให้ส่วนราชการนำรถเข้าตรวจสอบท่อไอเสียทุกคัน กำชับ สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด ตรวจสอบการปล่อยไอเสียจากโรงงาน การรับซื้ออ้อยเผาของโรงงานน้ำตาล ต้องไม่เกินกำหนด มีการตรวจสอบโรงงานอุตสาหกรรมที่เสี่ยงในการก่อมลพิษ โดยมีเป้าหมาย 36 โรงงาน ซึ่งปัจจุบันตรวจสอบไปแล้ว 19 โรงงาน
ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวเพิ่มเติมว่าได้สั่งการในที่ประชุม สำหรับปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้อากาศไม่ถ่ายเท หรือสภาวะฝาชีครอบ และปัจจัยที่ควบคุมได้ คือการเผาในที่โล่ง ให้นายอำเภอทุกอำเภอ ประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น แจ้งโรงขยะทุกแห่งให้งดการเผา ให้ท้องถิ่นจังหวัด ประสานกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีการจัดเก็บขยะให้มากขึ้น เพื่อไม่ให้เกิดการเผา เพราะรอรถเก็บขยะเป็นเวลานาน ส่วนการเผาวัสดุทางการเกษตร ให้ทุกอำเภอ จัดชุดเคลื่อนที่เร็วออกปฏิบัติการ และระงับเหตุโดยทันที หากเกิดเหตุเพลิงไหม้ กำชับเจ้าหน้าที่ให้ดำเนินคดีสำหรับฝ่าฝืนกฎหมายผู้ลักลอบเผาอย่างเข้มงวดทุกราย โดยมีผู้ถูกจับกุมและดำเนินคดีลักลอบเผา ในพื้นที่อำเภอพล และอำเภอเมืองขอนแก่น รวม 2 ราย