เริ่มแล้ว งานแสดงสินค้าและจับคู่ธุรกิจ SMART BUSINESS EXPO 2025 หวังกระตุ้นเศรษฐกิจ คาดเงินสะพัด 500 ล้านบาท
14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568 ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติขอนแก่น ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานเปิดงานแสดงสินค้าเทคโนโลยี นวัตกรรมดิจิทัล เพื่อธุรกิจ ครั้งที่ 2 “Smart Business Expo 2025” โดยมีรองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น พร้อมด้วยนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น, ประธานหอการค้าจังหวัดขอนแก่น, ผู้ประกอบการธุรกิจในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กลุ่มธุรกิจดิจิทัล ธุรกิจผู้ผลิตซอฟต์แวร์ ธุรกิจตัวแทนจำหน่าย สตาร์ทอัพ ตลอดจนสถาบันการเงินให้สินเชื่อธุรกิจร่วมงาน
ศ.ดร.นฤมลกล่าวว่า งานแสดงสินค้าเทคโนโลยี นวัตกรรมดิจิทัล เพื่อธุรกิจ ครั้งที่ 2 ถือเป็นเวทีที่สร้างโอกาสการเจรจาจับคู่ธุรกิจถึงการซื้อขายสินค้าและบริการด้านเทคโนโลยี เป็นความร่วมมือของ 3 กระทรวงและภาคเอกชนให้อุตสาหกรรมไทยก้าวหน้าขึ้น ซึ่งจากข้อมูลพบว่าอุตสาหกรรมที่เกิดจากการแปรรูป เกิดจากสินค้าเกษตรถึงร้อยละ 30 การพัฒนาศักยภาพด้วยการมีการแลกเปลี่ยนธุรกิจภาคอุตสาหกรรมให้ก้าวทันยุคดิจิทัล ส่งผลโดยตรงกับภาคการเกษตร ซึ่งสร้าง GDP ให้สูงขึ้น ให้เกษตรกรเป็นเกษตรกรก้าวหน้า หรือสมาร์ทฟาร์มเมอร์เชื่อมสินค้าเกษตรกับเทคโนโลยีเข้าด้วยกัน สร้างมูลค่าให้สินค้าเกษตรไทย
“Smart Business Expo 2025” งานแสดงสินค้าและจับคู่ธุรกิจ รุกขยายตลาดดิจิทัลสู่ภูมิภาค จัดขึ้นระหว่างวันที่ 14 – 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568 ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติขอนแก่น (KICE) มีการนำเสนอความก้าวหน้าเทคโนโลยีดิจิทัล ประยุกต์ใช้ในธุรกิจ ทั้งมีเป้าหมายเพิ่มโอกาสธุรกิจให้แก่ผู้ประกอบการเข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัล และนำมาประยุกต์ใช้ดำเนินธุรกิจ เพิ่มศักยภาพให้ธุรกิจสามารถแข่งขันได้ในโลกยุคดิจิทัล ภายในงานมีกิจกรรมพบผู้ประกอบการธุรกิจในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและส่วนกลางรวมถึงภูมิภาคอื่นๆ ทั่วประเทศ ทั้งกลุ่มธุรกิจดิจิทัล ธุรกิจผู้ผลิตซอฟต์แวร์ ธุรกิจตัวแทนจำหน่ายสตาร์ทอัพ ตลอดจนสถาบันการเงินให้สินเชื่อธุรกิจ มาร่วมออกบูทแสดงสินค้าและบริการไม่ต่ำกว่า 200 บูท นอกจากนี้ยังมีโซนจัดกิจกรรมสัมมนา เพื่อให้ความรู้ในประเด็นต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีดิจิทัลในประเด็นที่หลากหลายน่าสนใจอีก. คาดว่าตลอดระยะเวลาการจัดงาน 3 วันจะเกิดการเจรจาจับคู่ธุรกิจถึงการซื้อขายสินค้าและบริการด้านเทคโนโลยีภายในงานไม่น้อยกว่า 500 ล้านบาท