เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2561 นายสมศักดิ์ จังตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ได้เปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการ การสร้างความรู้ความเข้าใจกลไก สนับสนุนระดับจังหวัดตามโครงการชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี ที่โรงแรมโฆษะ จังหวัดขอนแก่น โดยมีพัฒนาการจังหวัด พัฒนาการอำเภอ และหน่วยงานภาคีเครือข่ายผู้นำชุมชน ผู้แทนองค์กรชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี ได้มาร่วมสัมมนา กว่า 150 คน
นายธีรเชษฐ์ สอนปะละ พัฒนาการจังหวัดขอนแก่นกล่าวว่า โครงการชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี เป็นโครงการที่ลดความเหลื่อมล้ำทางสังคมที่มุ่งเน้นสร้างรายได้และความเจริญความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจโดยให้ภาคเอกชน ภาคประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมดำเนินการร่วมกับภาครัฐ เพื่อให้บรรลุวิสัยทัศน์ มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ซึ่งสอดคล้องกับการดำเนินงานตามโครงการหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์หรือ OTOP โดยจังหวัดขอนแก่นมีผู้ผลิตผู้ประกอบการ OTOP ทั้งสิ้น 1870 ราย มี 3311 ผลิตภัณฑ์ และมียอดจำหน่ายสินค้าเพิ่มขึ้นทุกปี จากการพัฒนาที่ผ่านมาผลิตภัณฑ์ของชุมชนส่วนใหญ่ไม่สามารถแข่งขันได้ ต้องออกไปขายสินค้าตามสถานที่ต่างๆ โดยไม่มีความสุขในการขายสินค้า และรายได้ตกกับผู้ประกอบการรายเดียว หรือบางกลุ่ม ไม่กระจายรายได้ถึงประชาชนกลุ่มใหญ่ทำให้การพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนรากฐานไม่ประสบผลสำเร็จเท่าที่ควร ประกอบกับรายได้การท่องเที่ยวที่เป็นกระแสหลักของประเทศส่วนใหญ่ตกอยู่ในกลุ่มของเอกชนขนาดใหญ่ กลุ่มโรงแรมกลุ่มร้านอาหาร โดยไม่ลงไปถึงระดับรากหญ้าชุมหมู่บ้านและชุมชน จึงมีแนวคิดพัฒนา OTOP รูปแบบใหม่เปลี่ยนผ่านยุค ผลักดันขายสินค้าโอทอปออกจากชุมชนสู่การสร้างรายได้ ตามความต้องการ โดยการขายสินค้าอยู่ในชุมชนที่มาจากการท่องเที่ยวโดยใช้เสน่ห์ ภูมิปัญญา วิถีชีวิต วัฒนธรรมและความคิดสร้างสรรค์ ทั้งนี้ชุมชนต้องเป็นเจ้าบ้านที่ดี ชวนกันคิด ชวนกันทำผลิตสินค้าและบริการรวมทั้งการมีเชื่อมโยงเส้นทางท่องเที่ยวระดับชุมชนที่มีเสน่ห์ดึงดูดและมีคุณค่า ให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเยือนประทับใจและใช้จ่ายเงินในทุกกิจกรรมภายในชุมชนซึ่งรายได้จะกระจายอยู่กับคนในชุมชนทุกคนมีความสุข เป็นการสร้างความเข้มแข็งกับชุมชนและ และเป็นการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากอย่างแท้จริง ซึ่งจังหวัดขอนแก่นจึงได้จัดทำโครงการชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี โดยดำเนินการในพื้นที่ 114 หมู่บ้าน 87 ตำบล 2-6 อำเภอ สำหรับกลุ่มเป้าหมายที่เข้าร่วมกิจกรรมตามโครงการประกอบด้วยผู้นำชุมชนผู้แทนองค์กรหมู่บ้านหมู่บ้านละ 5 คนแล้วก็ภาคีเครือข่ายอำเภอละ 5 คนจำนวน 114 หมู่บ้าน 8 7 ตำบล 2 6 อำเภอรวมทั้งสิ้น 700 คน และมีอาการ สัมมนารวมทั้งหมด 4 รุ่น