“จิ้งโกร่ง” แมลงเศรษฐกิจ ทำเงินของชาวบ้านหัน ต.พระบุ จ.ขอนแก่น
ชาวบ้านหัน ต.พระบุ หันเลี้ยงจิ้งโกร่ง เป็นอาชีพเสริม ช่วงว่างเว้นจากงานเกษตรสร้างรายได้งาม หลังสำนักงานเกษตรอำเภอพระยืน จัดสรรงบประมาณมาส่งเสริมสนับสนุนให้เกษตรกรผู้มีรายได้น้อย ตามโครงการเสริมสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรรายย่อย
เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 3 ก.ย.ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดขอนแก่นได้รับแจ้งว่า ชาวบ้านในพื้นที่ บ้านหันตำบลพระบุ อำเภอพระบุ จังหวัดขอนแก่น กว่า 20 ราย ต่างใช้เวลาว่างหลังเลิกงาน หรือว่างเว้นจากงานเกษตร ทำไร่ทำนา พากันหันมาเพาะเลี้ยงจิ้งโกร่ง ส่งขายให้พ่อค้าแม่ค้า และขายตามชุมชน นับเป็นการสร้างรายได้เสริมอย่างงาม จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมกับนางสาววิไลวรรณ ถานอาดนา นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรปฏิบัติการ สำนักงานเกษตรอำเภอพระยืน ดูแลพื้นที่ตำบลพระบุ ไปยังที่บ้านเลขที่ 124 หมู่ 3 บ้าน ต.พระบุ อ.พระยืน จ.ขอนแก่น โดยมี นางกรณ์กุลยา ประจวบ อายุ 44 ปี เจ้าของบ้าน และเป็นประธาน“กลุ่มเลี้ยงแมลงเศรษฐกิจ บ้านหัน”
นางกรณ์กุลยา ประจวบ ประธานกลุ่มเลี้ยงแมลงเศรษฐกิจบ้านหัน เล่าให้ฟังว่า ตนมีอาชีพทำไร่ทำนา โดยปกติครอบครัวทำฟาร์มอยู่แล้ว เป็นฟาร์มแมลง มีชื่อว่า “บ้านสวนฟาร์ม” อยู่ที่ บ้านหัน ต.พระบุ อ.พระยืน จ.ขอนแก่น ด้วยทางสำนักงานเกษตรอำเภอพระยืน มีโครงการเสริมสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรรายย่อย จัดสรรงบประมาณ มาให้ส่งเสริมสนับสนุนเกษตรกรผู้มีรายได้น้อย ประจวบกับสมาชิกในชุมชนไม่มีรายได้เสริม มีรายได้ภาคการเกษตรที่เป็นพืช ซึ่งมีรายได้เป็นรายปีเท่านั้น
นางกรณ์กุลยา กล่าวอีกว่าดังนั้นเกษตรกรทุกคนในกลุ่มเห็นพ้องต้องกันว่าต้องการมีรายได้เสริมที่เป็นอาชีพช่วงสั้นระยะ 2-4 เดือน นอกเหนือจากนาข้าว มันสำปะหลัง และอ้อย ซึ่งจากการวิเคราะห์สภาพพื้นที่และความต้องการของเกษตรกร ได้เห็นชอบว่าควร ที่จะรวมตัวกันเป็นกลุ่ม นำความความรู้ความสามารถที่มี เอามาเผยแพร่ให้กับสมาชิก โดยได้ตั้งเป็นชื่อกลุ่มว่า “กลุ่มเลี้ยงแมลงเศรษฐกิจ บ้านหัน” ได้รับงบประมาณมา 100,000 บาท ในการทำโครงการเลี้ยงแมลงเศรษฐกิจ จึงคิดหาแนวทางอาชีพเสริมสร้างรายได้ โดยรวมกลุ่มกันกับเพื่อนบ้าน กว่า 20 ราย ศึกษาเรียนรู้วิธีการเพาะเลี้ยง จิ้งโกร่ง พร้อมดูช่องทางการตลาดควบคู่ไปด้วย ซึ่งพบว่ามีผู้นิยมบริโภคจิ้งหรีด จิ้งโกร่ง และสะดิ้งเป็นจำนวนมาก จึงได้ทำการสั่งซื้อพ่อแม่พันธุ์ จิ้งโกร่ง มาทดลองเลี้ยงในกล่องทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า (smart watch) พร้อมฝาสามารถเคลื่อนย้ายไปที่บ้านของสมาชิกในกลุ่ม ขนาดกว้างประมาณ 1.20 เมตร ยาวประมาณ 2.40 เมตร และได้ทำการขยายพันธุ์มากขึ้นเรื่อยๆ จนขณะนี้เลี้ยงไว้แล้ว กว่า 25 กล่อง
โดยวิธีการเลี้ยงก็ไม่ยุ่งยาก คือ สถานที่เลี้ยง ต้องป้องกันแสงแดด และสายฝนได้ ควรมีอากาศถ่ายเทสะดวก ในแต่ละวันต้องให้อาหาร และน้ำอย่างสม่ำเสมอ โดยให้อาหารหลัก คือ พืชผักชนิดต่างๆ เช่น ใบมันสำปะหลัง ผักบุ้ง หยวกกล้วย ฯลฯ ส่วนอาหารรอง มักใช้อาหารไก่เล็กผสมกับแกลบอ่อนควบคู่กัน เมื่อเลี้ยง จิ้งโกร่ง อายุได้ประมาณ 60-65 วัน ก็จะสามารถจับขายได้ ในราคากิโลกรัมละ 140-145 บาท โดยใน 1 กล่องจะจับ จิ้งโกร่งได้ประมาณ 20 กิโลกรัม
นอกจากนี้ หลังจากที่จับจิ้งโกร่งออกจากกล่องเพื่อจำหน่ายสร้างรายได้แล้ว ยังพบว่าในกล่องเลี้ยง จะมีมูล จิ้งโกร่ง สะสมอยู่ด้านล่างเป็นจำนวนมาก จึงนำไปทดลองใส่พืชผัก และนำไปใส่นาข้าว ข้าวโพด มันสำปะหลัง ในปริมาณที่พอเหมาะ ปรากฏว่าได้ผลดีเกินคาด พืชผักมีการเจริญเติบโต งอกงาม ให้ผลิตอย่างเต็มที่
ทั้งนี้ ในปัจจุบัน พบว่ามีพ่อค้าแม่ค้า มาติดต่อขอรับซื้อกันเป็นประจำ และบางส่วน ก็จะนำไปขายตามท้องตลาดในชุมชน ซึ่งหากท่านใด สนใจสั่งซื้อ ก็สามารถติดต่อมาได้ที่ กลุ่มเลี้ยงแมลงเศรษฐกิจบ้านหัน โดยมีนางกรณ์กุลยา ประจวบ เป็นประธานกลุ่มฯโทร.099 – 036 7019 โดยทางกลุ่มเลี้ยงแมลงเศรษฐกิจ บ้านหัน สามารถผลิต “จิ้งโกร่ง” ได้มากถึงเดือนละประมาณ 400-500 กิโลกรัม