วัดป่าวังน้ำเย็น หรือ วัดพุทธวนาราม ตั้งอยู่ที่บ้านวังน้ำเย็น ต.เกิ้ง อ.เมือง จ.มหาสารคาม พื้นที่กว่า 30 ไร่ ได้รับการยกฐานะขึ้นเป็นวัดที่ถูกต้องเมื่อวันที่ 22 พ.ย.2555 สังกัดสงฆ์มหานิกาย ปัจจุบัน พระอาจารย์สุริยันต์ โฆสปัญโญ พระเกจิชื่อดัง ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดป่าวังน้ำเย็น
ความเป็นมาของการสร้างวัดป่าวังน้ำเย็น สืบเนื่องจาก “พระครูภาวนาชยานุสิฐ” หรือ พระอาจารย์สุริยันต์ โฆสปัญโญ ปัจจุบันอายุ 39 ปี พรรษา 19 ประธานสงฆ์วัดป่าวังน้ำเย็น ต.เกิ้ง อ.เมือง จ.มหาสารคาม และผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดมหาชัย พระอารามหลวง จ.มหาสารคาม เป็นพระเกจิอาจารย์ สืบสายธรรมจากหลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญ โญ พระเกจิอาจารย์ชื่อดัง จ.นครพนม ที่ญาติโยมชาวมหาสารคาม มีความเลื่อมใสศรัทธาร่วมกันบริจาคที่ดินบริเวณบ้านวังน้ำเย็น ต.เกิ้ง อ.เมือง จ.มหาสารคาม พื้นที่กว่า 30 ไร่ คือ บริเวณที่ตั้งวัดป่าวังน้ำเย็น ในปัจจุบัน มอบให้พระอาจารย์สุริยันต์สร้าง ซึ่งพระอาจารย์สุริยันต์ก็รับนิมนต์ โดยร่วมแรงร่วมใจกับญาติโยมและคณะศิษยานุศิษย์ พัฒนาที่รกร้างว่างเปล่าผืนนี้ จนกลายสภาพเป็นวัดที่เจริญรุ่งเรือง
พุทธศาสนิกชนที่ผ่านเข้าไปในเขตวัดแห่งนี้ จะพบถาวรวัตถุ อาทิ ศาลาปฏิบัติธรรมไม้สักทองขนาดใหญ่เสา 112 ต้น ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย สร้างจากไม้เนื้อแข็งประกอบด้วยไม้แดง ไม้ประดู่ ตกแต่งด้วยไม้สักทอง มูลค่ากว่า 80 ล้านบาท และหอระฆังสร้างจากไม้สักขนาดใหญ่ เป็นต้น จุดเด่นของวัดป่าวังน้ำเย็นที่ถาวรวัตถุภายในวัด ล้วนก่อสร้างจากไม้ ด้วยฝีมือช่างด้วยความวิจิตรบรรจง จึงเป็นวัดที่มีความสวยงามอลังการ ญาติโยมทั้งใกล้และไกลที่มาเห็น มักถ่ายภาพเก็บเป็นที่ระลึก
นอกจากนี้ ยังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่สำคัญคู่วัดป่าวังน้ำเย็น ที่พุทธศาสนิกชนที่มาเยือนไม่ควรพลาดชมและกราบนมัสการขอพร เพื่อความเป็นสิริมงคล คือ พระพุทธรูปทรงเครื่อง หน้าตักขนาด 5 นิ้ว 3 องค์ สร้างจากทองคำบริสุทธิ์ น้ำหนักรวมกว่า 12 กิโลกรัม พระพุทธรูปทองคำทั้ง 3 องค์ วัดจะนำออกแห่รอบเมืองในงานทอดกฐินทุกปี เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้สักการบูชา
วัดป่าวังน้ำเย็น นอกจากเป็นศูนย์รวมใจของพุทธ ศาสนิกชนในพื้นที่แล้ว ปัจจุบันยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางศาสนา ที่สำคัญแห่งหนึ่งของเมืองมหาสารคาม ในแต่ละวัน พุทธศาสนิกชนทั้งใกล้และไกล เข้ามาชมถาวรวัตถุอลังการงานไม้ภายในวัด พร้อมกราบขอพรพระพุทธรูปทองคำ เพื่อความเป็นสิริมงคล
พระอาจารย์สุริยันต์กล่าวว่า เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่ญาติโยมที่เดินทางมาร่วมทำบุญ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างห้องน้ำ ห้องสุขา ให้สะอาดน่าใช้ถูกสุขอนามัย เป็นต้น และเมื่อมีการขยายพื้นที่วัดออกไป ทำให้พื้นที่วัดด้านข้างทิศใต้พื้นที่จอดรถ แบ่งเป็น 2 แปลง เพราะมีลำห้วยกั้น หากญาติโยมลงจากรถแล้วก็ต้องเดินอ้อมทำให้ไม่ได้รับความสะดวก ทางวัดจึงได้จัดสร้างสะพานคอนกรีตเชื่อมที่ดินของวัด 2 แปลงเข้าหากัน โดยขออนุญาตจากทางชลประทานจังหวัด และธนารักษ์พื้นที่มหาสารคาม ซึ่งก็ได้รับอนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย