ชมรม”ลมวิเศษ”เปิดตัว!กำไลวิเศษ:สายรัดข้อมืออัจฉริยะพร้อม QR Code ช่องทางใหม่ในการดูแลผู้ป่วยโรคถุงลมโป่งพอง
แพทยสมาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์และโครงการอุ่นใจเมื่อใกล้ แพทยสมาคม นำโดยชมรม”ลมวิเศษ”จัดกิจกรรมเสริมสร้างความรู้และให้กำลังใจแก่ผู้ป่วยโรคถุงลมโป่งพอง เนื่องในวันโรคถุงลมโป่งพองโลก พร้อมเปิดตัว”กำไลวิเศษ:สายรัดข้อมืออัจฉริยะพร้อม QR Code เพื่อเป็นช่องทางใหม่ในการดูแลผู้ป่วยโรคถุงลมโป่งพองในประเทศไทยให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
วันที่ 26 พ.ย. ที่ หน้าขอนแก่นฮอลล์ ชั้น 5 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา ขอนแก่น นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่นให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรมเสริมสร้างความรู้และให้กำลังใจแก่ผู้ป่วยโรคถุงลมโป่งพองเนื่องในวันโรคถุงลมโป่งพองโลก โดยชมรม “ลมวิเศษ” ภายใต้โครงการอุ่นใจเมื่อใกล้แพทยสมาคมฯ รณรงค์วันโรคถุงลมโป่งพองโลก “WORLD COPD DAY 2018”
โดยมี รศ.นพ.วัชรา บุญสวัสดิ์อาจารย์ประจำภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มข.พญ.นาฏ ฟองสมุทร หัวหน้าโครงการอุ่นใจใกล้ แพทยสมาคม รศ.นพ.อภิชาติ จิระวุฒิพงศ์ ผอ.โรงพยาบาลศรีนครินทร์ นายสมกมล จิราธิวัฒน์ ผอ.อาวุโส บ.กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด ดร.ปรีชา คฤหวาณิช ประธานที่ปรึกษาภาคประชาคม ชมรมลมวิเศษ นายวิริยะ จงไพศาล กรรมการ ผจก.ใหญ่ บ.แกล็กโซสมิทไคล์น(ประเทศไทย)จำกัด นางนิสา ชาภู่พวง ผู้จัดการ ทั่วไปศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา ขอนแก่น และผู้สนใจร่วมงานกว่า 1,000 คน
รศ.นพ.วัชรา บุญสวัสดิ์ คณะแพทยศาสตร์มหาลัยขอนแก่น และกรรมการที่ปรึกษาชมรมลมวิเศษ กล่าวว่าโรคถุงลมโป่งพองนับเป็นปัญหาสาธารณสุขของประชากรโลก โดยมีผู้เสียชีวิตจากโรคนี้ประมาณปีละ 3 ล้านคนทั่วโลกขณะที่ประเทศไทยพบผู้ป่วยประมาณ 1.5 ล้านคนและมีการเสียชีวิตจากโรคนี้ประมาณ 6,000 คนต่อปีหรือวันละ 16 คน โรคถุงลมโป่งพอง จึงถือเป็นโรคร้ายแรงที่ประเทศไทยควรมีมาตรการป้องกันและรักษา โดยเฉพาะเพื่อลดอุบัติการณ์เกิดโรคเนื่องจากโรคถุงลมโป่งพองส่งผลอย่างมากต่อสังคมและเศรษฐกิจอันเนื่องมาจากค่าใช้จ่ายในการรักษาการ เสียโอกาสทางการทำงานรวมไปถึงการมีคุณภาพชีวิตที่แย่ลงของผู้ป่วยและครอบครัวผู้ดูแล สำหรับ การรณรงค์ทั่วโลกในปีนี้มุ่งเน้น ธีม Never too Early ,Never too late นั่นคือ ไม่มีคำว่าเร็วเกินไปสำหรับการมาตรวจวินิจฉัยโรค ยิ่งตรวจได้เร็วเท่าไหร่ก็ลดอาการของโรคได้เร็วขึ้น แต่เมื่อเป็นโรคแล้วก็ไม่สายเกินไปที่จะดูแลรักษา ส่วนใหญ่ผู้ป่วยจะมีอาการเหนื่อยง่ายแล้วถึงได้มาตรวจโรค ซึ่งเวลานั้นปอดถูกทำลาย เสื่อมสภาพไปแล้ว และไม่สามารถฟื้นคืนสภาพเดิมได้ดังนั้นผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงเช่น ผู้ที่สูบบุหรี่ควรมาตรวจสมรรถภาพปอดแต่เนิ่นๆหากมีการตรวจและรักษาโรคได้เร็วก็ช่วยลดอาการของโรคได้ สำหรับโรคถุงลมโป่งพองเกิดจากการสูดหายใจเอามลพิษในอากาศฝุ่นละออง หรือสารเคมีเป็นปริมาณมากได้ติดต่อกันเช่นควันบุหรี่ควันพิษในอากาศโดยสารพิษจากควันจะทำลายถุงลมและปอดให้เสื่อมสภาพผู้ป่วยจะมีอาการไอแบบมีเสมหะ เป็น เป็นหายหายหอบเหนื่อยง่ายกว่าปกติและจะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆอาจหายใจมีเสียงหวีดในลำคอและอาจรู้สึกเจ็บหน้าอกร่วมด้วย เมื่อมีอาการรุนแรงมากขึ้นจะเกิดภาวะความดันโลหิตสูงของหลอดเลือดที่ไหลเข้าสู่ปอดซึ่งมีผลทำให้เกิดภาวะหัวใจวายได้
คุณหญิงสมกมล จิราธิวัฒน์ ผู้อำนวยการ อาวุโสบริษัทกลุ่มเซ็นทรัลจำกัด ในฐานะคณะทำงานชมรมรมวิเศษกล่าวว่า โรคถุงลมโป่งพองนับเป็นโรคร้ายแรงและเป็นต้นเหตุการณ์เสียชีวิตใน 10 อันดับแรกของคนไทยชมรมวิเศษจึงถือกำเนิดขึ้นด้วยความห่วงใยและปรารถนาดี จากแพทยสมาคมแห่งประเทศไทยและภาคประชาสังคมที่มีจิตสาธารณะเพื่อเสริมสร้างพลังบวกให้แก่ผู้ป่วยโรคถุงลมโป่งพองและครอบครัวเพื่อการใช้ชีวิตร่วมกับโลกอย่างมีคุณภาพ เนื่องจากโรคถุงลมโป่งพองเป็นโรคที่รักษาไม่หายขาดสำหรับการจัดกิจกรรมเนื่องในวันโรคถุงลมโป่งพองโลกครั้งนี้เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ป่วยและครอบครัวได้พบปะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และผู้ป่วยอื่นตลอดจนเพื่อการเผยแพร่ความรู้ด้านการดูแลผู้ป่วยและการใช้ดนตรีบำบัด รวมทั้งการตรวจสมรรถภาพปอด และให้คำปรึกษาเลิกบุหรี่แก่ผู้ป่วยเพื่อให้ผู้ป่วยและครอบครัวได้เข้าถึงการรักษาเพื่อเปลี่ยนความทุกข์ทรมานที่มีอยู่เดิมเป็นความสุขทั้งกายและใจอย่างแท้จริง
ทางด้าน ดร.ปรีชา คฤหวาณิช ประธานบริหาร บริษัท วินเซิร์ฟ คอร์ปอเรชั่นจำกัด และประธานที่ปรึกษาภาคประชาสังคมชมรมลมวิเศษ กล่าวว่า ชมรมลมพิเศษได้จัด เตรียมกำไลวิเศษหรือสายรัดข้อมือ อัจฉริยะ สำหรับผู้ป่วยโรคถุงลมโป่งพอง เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการเก็บข้อมูลพื้นฐานที่จำเป็นของผู้ป่วย เช่นชื่อนามสกุล ที่อยู่หมายเลขโทรศัพท์ ติดต่อ ของครอบครัวโรงพยาบาล ที่ผู้ป่วยใช้บริการเป็นประจำรวมทั้งโรคที่ผู้ป่วยรับการดูแลรักษาอยู่ โดยเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน สามารถ สแกนคิวอาร์โค้ด ที่กำไรพิเศษจะปรากฏข้อมูลของผู้ป่วย เพื่อประโยชน์ในการรักษารวมทั้งข้อมูลเพื่อการดูแลยามฉุกเฉิน เช่นคลิปวีดีโอสั้น ในการปั๊มหัวใจ เพื่อกู้ฟื้นคืนชีพ คลิปสอนการพ่นยาขยายหลอดลมแบบฉุกเฉินรวมถึงข้อมูลทั่วไปสำหรับการดูแลรักษาโรคถุงลมโป่งพองต่างๆอีกทั้งยังมีช่องทางในการจัดทำพินัยกรรมชีวิต (Living will )หรือเจตนารมณ์ในการรักษาเมื่อผู้ป่วยหมดสติ โดยชมรมคาดหวังว่ากำไรพิเศษจะเป็นเครื่องมือหนึ่งที่ช่วยสนับสนุนให้ผู้ป่วยและครอบครัวสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีคุณภาพดียิ่งขึ้น
นายวิริยะ จงไพศาล กรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัทแกล็ก โซสมิทไคล์น ( ประเทศไทย )จำกัดหรือ gsk และกรรมการภาคประชาชน สังคมชมรมรมลมพิเศษ กล่าวว่า กล่าวว่า การดูแลผู้ป่วย “โรคถุงลมโป่งพอง” ต้องอาศัยความร่วมมือในทุกมิติ ได้แก่ แพทย์, ผู้ป่วยและญาติๆ ผู้ดูแลผู้ป่วย โดยจะพัฒนาสื่อความรู้ในการดูแลผู้ป่วยโรคถุงลมโป่งพองด้วยตนเองที่บ้าน ผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น เว็บไซต์ www.magicbreath.org, โมบายแอพลิเคชั่นในชื่อ Magic Breath, โซเชียลมีเดีย เช่น Facebook, เผยแพร่ VDO Clip ลงใน Youtube และสร้างนวัตกรรมในการดูแลตนเองให้ง่ายขึ้นด้วยการใช้ QR Code Wristband หรือเรียกชื่อว่า “กำไลวิเศษ” ซึ่งจะเป็นสายรัดข้อมืออัจฉริยะ ซึ่งทางโครงการได้พัฒนาขึ้นเพื่อให้เกิดความ ปลอดภัยต่อตัวผู้ป่วย และช่วยให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลที่ดีขึ้น .. ขอเชิญชวนผู้สนใจติดตามข้อมูลเกี่ยวกับกิจกรรมต่างๆ ของชมรมได้ที่ WWW.MAGICBREATH.ORG หรือ ชมรมลมวิเศษ โทรศัพท์ 0 2 318 8170