วันที่ 23 กันยายน 2565 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เดินทางไปยังโรงพยาบาลศูนย์ขอนแก่น 2 ตำบลโคกสี อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น รับฟังปัญหาอุปสรรคในการก่อสร้างโรงพยาบาลขอนแก่น 2 โดยมีนายสุเทพ มณีโชติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นเป้นประธานกล่าวต้อนรับ พร้อมด้วยนายแพทย์สวัสดิ์ อภิวัจนีวงศ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 7 นายแพทย์ภาคี ทรัพย์พิพัฒน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น และคณะผู้ยริหารจากโรงพยาบาลขอนแก่นร่วมให้การต้อนรับ ทั้งนี้ โรงพยาบาลขอนแก่น 2 ได้รับบริจาคที่ดินและเงินก่อสร้างจากพระครูสิริสารธรรมเจ้าอาวาสวัดศิริธรรมิกาวาส รวมทั้งประชาชนชาวตำบลโคกสี มีพื้นที่จำนวนทั้งสิ้น 101 ไร่ 3 งาน 14 ตารางวา ได้รับการปรับเกลี่ยพื้นที่และถมดินแล้วจำนวน 29 ไร่ เปิดดำเนินการตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2559 ถือเป็น SMART Hospital ทีมึคุณภาพและเป็นที่พึ่งของประชาชนในพื้นที่ มีบุคลากรทั้งสิ้นจำนวน 46 คนเปิดให้บริการผู้ป่วยนอกโรคทั่วไป โรคเรื้อรัง อุบัติเหตุและฉุกเฉิน ทันตกรรม แพทย์แผนไทย กายภาพบำบัด และคลินิกพิเศษ ปัจจุบัน มีผู้มารับบริการเฉลี่ย 91 รายต่อวัน ส่วนใหญ่เป็นประชาชนในเขตพื้นที่ อ.เมือง อ.น้ำพอง อ.ซำสูง และ อ.เชียงยืน จ.มหาสารคาม และกำลังดำเนินการสร้างอาคารผู้ป่วยใน 2 ชั้น ขนาด 60 เตียง ด้วยเงินบริจาค จำนวน 37,999,000 บาท คาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการเพื่อลดความแออัดของโรงพยาบาลในเขตพื้นที่อำเภอเมืองและผู้ป่วยส่งกลับรักษาจากโรงพยาบาลขอนแก่นได้ในปีงบประมาณ 2566
โดยนายอนุทิน ได้เชิญชวนพี่น้องชาวจังหวัดขอนแก่นฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นโควิด-19 เพื่อลดความรุนแรงของการป่วย กล่าวชื่นชมและให้กำลังใจแก่ทีมผู้ให้บริการทุกคนที่มีความอุตสาหะ ตั้งใจพัฒนางานบริการให้ได้ตามมาตรฐานวิชาชีพและมีคุณภาพ พร้อมทั้งได้มอบนโยบายการดำเนินงานด้านสาธารณสุข เพื่อให้ทุกหน่วยงานนำไปสู่การปฏิบัติด้วยมาตรการสาธารณสุข ขับเคลื่อนและฟื้นฟูเศรษฐกิจนำประเทศและประชาชนกลับมาใช้ชีวิตได้ใกล้เคียงกับภาวะปกติแบบวิถีใหม่ (New Normal) ด้วยการพัฒนาศักยภาพสถานพยาบาลของรัฐให้เข้าถึงบริการได้ง่าย สะดวก รวดเร็ว เสริมสร้างศักยภาพการแพทย์ปฐมภูมิด้วย 3 หมอ คือ อสม. หมอประจำบ้าน หมออนามัย และหมอครอบครัว เสริมสร้างศักยภาพโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลให้เป็นศูนย์การสาธารณสุขประจำตำบล ชุมชนสุขภาพดี พึ่งตนเองได้ บูรณาการสำหรับผู้ป่วยสูงอายุ ให้ดูแลรักษาพยาบาลแบบองค์รวมให้ผู้สูงอายุมีคุณภาพชีวิตที่ดี เสริมสร้างศักยภาพงานบริการต่อยอด 30 บาทรักษาทุกที่ ไม่ต้องมีใบส่งตัวลดขั้นตอนและความยุ่งยากในการเข้าถึงระบบบริการสาธารณสุข ลดรายจ่ายของประชาชน เพิ่มศักยภาพ การรักษามะเร็งให้สามารถรักษาได้ทุกที่ ทั้งผ่าตัด เคมีบำบัด รังสีรักษาที่สะดวกรวดเร็วครอบคลุมทุกพื้นที่ พัฒนาพืชสมุนไพร กัญชา กัญชง กระท่อม และภูมิปัญญาไทย เพื่อสร้างงาน สร้างอาชีพ และสร้างรายได้ พัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเป็นศูนย์ข้อมูลกลางสุขภาพประชาชน ในรูปแบบใหม่ ให้ทันสมัย มีมาตรฐานเพื่อให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ต่อจากนั้น รมต.สาธารณสุขได้เดินทาง ไปยังหอประชุมเอนกประสงค์กาญจนาภิเษก มหาวิทยาลัยขอนแก่น เพื่อรับฟังปัญหาความต้องการของประชาชนในพื้นที่จังหวัดขอนแก่นต่อไป