น้ำชีไหลทะลักเข้าท่วมบ้านท่าพระเนาว์ ตำบลท่าพระ ขอนแก่น
ซึ่งภายหลังจากที่พนังกั้นน้ำบ้านท่าพระเนาว์ ตำบลท่าพระ อำเภอเมืองขอนแก่น ได้เกิดขาดเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ที่ผ่านมา ทำให้น้ำจากแม่น้ำชีไหลทะลักเข้ามาบริเวณถนนสีชมพู โดยมวลน้ำจำนวนมากได้ไหลทะลักและกัดเซาะจนพนังกั้นน้ำแบบดินขาด ทำให้น้ำไหลทะลักเข้า เข้าท่วมพื้นที่การเกษตรและบ้านเรือนประชาชน หมู่บ้านจัดสรรขนาดใหญ่ในพื้นที่บ้านท่าพระเนาว์ และโรงงานผลิตขนมปังที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ ซึ่งน้ำมีระดับสูงประมาณ 1 เมตร ชาวบ้านต้องขนย้ายสิ่งของมีค่า ออกจากบ้าน โดยเทศบาลตำบลท่าพระ ได้ระดมกำลังทุกภาคส่วนช่วยเหลือในการสนับสนุนกระสอบทรายกั้น การอพยพประชาชน ขนย้ายทรัพย์สินมีค่าออกจากพื้นที่เป็นการเร่งด่วน
วันนี้ 10 ต.ค.65ที่ บ้านท่าพระเนาว์ ต.ท่าพระ อ.เมืองขอนแก่น จ.ขอนแก่น นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น พร้อมด้วย นายศุภชัย ลีเขาสูง ปลัดจังหวัดขอนแก่น นายประจวบ รักแพทย์ นายอำเภอเมืองขอนแก่น นายพิสุทธิ์ อนุตรอังกูร นายกเทศมนตรีตำบลท่าพระ และคณะ ร่วมลงพื้นที่ตรวจติดตามสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่บ้านท่าพระเนาว์ และการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่ว
ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า จากการติดตามข้อมูลทราบว่าต้นน้ำ จากทางจังหวัดชัยภูมิเริ่มน้ำเริ่มแห้งลงแล้ว ส่วนหางน้ำที่อำเภอคอนสวรรค์ จ.ชัยภูมิ ซึ่งเป็นอำเภอสุดท้ายที่มีน้ำชีไหลผ่าน น้ำได้ไหลเข้าสู่อำเภอแก้งสนามนาง และไหลย้อนเข้าสู่จังหวัดขอนแก่น คาดว่าหัวน้ำของมวลน้ำจากชัยภูมิ ได้เคลื่อนถึงที่อำเภอมัญจาคีรี และอำเภอชนบท ขณะนี้น้ำเริ่มทรงตัวและฝนเริ่มลดปริมาณลง
ส่วนวิกฤติของอ่างเก็บน้ำเขื่อนอุบลรัตน์ ที่วันนี้มีการระบายน้ำอยู่ที่ 54 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งหากพ้นวิกฤตจุดสูงสุดไปก็สามารถที่จะประคองสถานการณ์ไม่ให้ส่งผลกระทบกับอำเภอโนนสังข์ จ.หนองบัวลำภู โดยลดระดับการระบายน้ำลงได้และปัจจัยสำคัญอีกส่วนคือน้ำในอ่างเก็บน้ำเขื่อนจุฬาภรณ์ ที่ยังไม่เต็มความจุ ไม่มีการระบายน้ำออกมาเพิ่มในขณะนี้ ซึ่งคาดว่าวิกฤตของเขื่อนอุบลรัตน์ จะคลี่คลายลงในอีกไม่เกิน 10 วัน โดยจุดที่ยังเป็นวิกฤตคือการระบายน้ำจากเขื่อนอุบลรัตน์ และมาบรรจบกับน้ำชี ที่จุดรอยต่อ จ.มหาสารคาม จึงทำให้น้ำระบายได้ช้าลง แต่จากการสำรวจพบว่าน้ำยังระบายได้ดี ถือเป็นสัญญานที่ดี