ผู้ปกครอง เสี่ยง!จับฉลากเข้าเรียนชั้นอนุบาล “ร.ร.อนุบาลขอนแก่น” ล้นหลาม
ผู้ปกครองทั่วภาคอีสาน ต่างพาบุตรหลานเสี่ยงจับสลากเข้าเรียนชั้นอนุบาล โรงเรียนอนุบาลยอดฮิต “โรงเรียนอนุบาลขอนแก่น” เผยยื่นสมัครทั้งหมด 595 คน แต่รับได้เพียง 276 คน
เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2566 ที่อาคารเอนกประสงค์ รร.อนุบาลขอนแก่น เขตเทศบาลนครขอนแก่น นายประจวบ ศิริภักดิ์ ผอ.รร.อนุบาลขอนแก่น เป็นประธานในการจับสลากเข้าเรียนห้องเรียนปกติ ชั้นอนุบาลปีที่ 2 ประจำปีการศึกษา 2565 โดยมีตัวแทนสนง.คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ภาค 4 ,ตัวแทน สนง.คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ,ตัวแทนจาก สำนักงานอัยการภาค 4 ตลอดจน นายศักดา มุสิกวัน ,นายสมนึก อาจยะศรี ,นายนิรุจน์ นครศรี ,นายศุภวัฒน์ อินทรกำแหง รองผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลขอนแก่น คณะบอร์ดบริหาร คณะครูสายชั้นประถมศึกษา ตลอดจน คณะครู ผู้ปกครองนักเรียน จำนวนมาก ร่วมเป็นสักขีพยาน และร่วมลุ้นการจับฉลากของบุตรหลาน
นายประจวบ ศิริภักดิ์ ผอ.รร.อนุบาลขอนแก่นกล่าวว่าโรงเรียนอนุบาลขอนแก่น นั้นได้ทำการรับนักเรียน ปี 2566 จำนวนรวมทั้งสิ้น 300 คน แยกเป็น รับ มอนเตสซอรี+จีน 15 คน รับนักเรียน ในเขตพื้นที่บริการ 4 คน ,รับเงื่อนโขพิเศษ 5 คน รวมรับนักเรียนไว้แล้ว 24 คน คงเหลือฉลากจับได้ 276 คน โดยในปีนี้มีผู้ที่ผู้มีสิทธิ์จับฉลากเข้าเรียนห้องเรียนปกติ ชั้นอนุบาลปีที่ 2 ประจำปีการศึกษา 2566 จำนวน 595 คน โดยแยกเป็นผู้ชาย 319 คน เป็นผู้หญิง 276 คน แต่จับฉลากเข้าชั้นอนุบาล 2 ประจำปี 2566 ได้เพียง 276 คน ที่เหลืออีก 319 คน จับไม่ได้
นายประจวบ กล่าวอีกว่าเมื่อวานที่ โรงเรียนอนุบาลขอนแก่น ได้มีการจับฉลากเข้าระดับชั้นอนุบาล 2 มีผู้ประสงค์ที่จะจับฉลากเป็นจำนวนมาก แต่ทางโรงเรียนนั้นมีข้อจำกัดในการรับ รับได้ตามจำนวนข้อจำกัด ของหน่วยงานต้นสังกัด กำหนดให้ เพราะฉะนั้นต้องขอขอบคุณพ่อแม่ผู้ปกครอง ที่ให้ความสำคัญและให้ความสนใจ และสิ่งสำคัญก็คือความเชื่อมั่น ในตัวโรงเรียนอนุบาลขอนแก่น ที่ได้ส่งบุตรหลาน มาจับฉลากในครั้งนี้ และขอแสดงความยินดีกับผู้ที่จับได้ ซึ่งถือว่าได้มีโอกาสมาอยู่ร่วมกัน และสำหรับคนที่จับไม่ได้นั้น ก็ให้ไปเรียนที่โรงเรียนที่อยู่ใกล้ๆบ้าน และมีครูบาอาจารย์ที่เก่ง เท่ากับโรงเรียนอนุบาลขอนแก่น เพียงแต่ว่า เราไม่มีโอกาสได้มาอยู่ร่วมกัน
นายประจวบ กล่าวเสริมว่า จึงอยากฝากไปยังผู้ปกครองที่จับฉลากไม่ได้ก็ขอให้คุณพ่อ -คุณแม่ผู้ปกครอง นำเด็กไปเรียนที่โรงเรียนดีใกล้บ้าน โรงเรียนที่มีคนชอบ ที่มีความสนใจ โรงเรียนที่อื่นนั้นถือว่าเป็นโรงเรียนดีมีคุณภาพเหมือนกัน เช่นเดียวกับโรงเรียนอนุบาลขอนแก่น และอีกประการหนึ่งเด็กที่จับฉลากได้ของโรงเรียนอนุบาลขอนแก่นนั้น เราไม่ได้คัดความสามารถ ด็ยินดีต้อนรับเข้าสู่โรงเรียนอนุบาลขอนแก่น ส่วนการจัดการเรียนการสอนนั้น การเริ่มต้นจะเป็นการปรับพื้นฐาน ปรับสภาพก่อนเข้าสู่ชั้นอนุบาล โดยคุณครูชั้นอนุบาล ก็จะมีการจัดหลักสูตร ปรับสภาพเพื่อ เตรียมความพร้อมเพื่อลูกๆนั้น จะได้มีความพร้อมเพื่อจะเข้ามาสู่ สังคมอนุบาลขอนแก่น เราจะมีการปรับความพร้อม ปรับตัวอยู่ ประมาณ 1 สัปดาห์ ก่อนเปิดภาคเรียนแรกของทุกปี และประการที่ 2 ปรับมาแล้วในการจัดการเรียนการสอน ชั้นอนุบาลหรือปฐมวัย ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นเป็นต้นกล้า ต้องปลูกฝัง ถ้าเด็กจะเรียนดี เรียนเก่ง เรียนได้ ก็ต้อง เก่งตั้งแต่ห้องเรียนชั้นอนุบาล
“ดังนั้นการจัดการเรียนการสอนให้กับลูกๆ ให้มีพัฒนาการทั้ง 4 ด้าน ไม่ว่าจะเป็น ด้านร่างกาย ด้านอารมณ์ ด้านสังคมจิตใจและสติปัญญา ทางโรงเรียนให้ความสำคัญทุกๆด้าน และที่สำคัญคุณพ่อคุณแม่ผู้ปกครอง ต้องมีส่วนร่วมให้ความร่วมมือกับทางโรงเรียน ในการส่งเสริมพัฒนาการของลูกๆ เพื่อไปสู่จุดมุ่งหมายของผู้เรียนต่อไป”นายประจวบ กล่าว
ด้าน นาง สลินนา พระโพธิ์ อาชีพทำงานการประปาส่วนภูมิภาค แม่น้องกัสโต อายุ 4 ขวบ ที่ดวงดีสามารถจับฉลากได้ กล่าวว่า รู้สึกดีใจมากที่ลูกสามารถจับฉลากได้ในครั้งนี้ ในส่วนตัว มีความเชื่อถือและเชื่อมั่นในชื่อเสียงและการเรียนการสอน ของ ร.ร.อนุบาลขอนแก่น อันเป็นที่กล่าวขานกันนานมา รู้สึกดีใจมาก ที่จับฉลากได้ เพราะว่าไม่ต้องไปหาที่เรียนในโรงเรียนที่ไกลตัวเมือง หรือเรียนโรงเรียนเอกชน อีกอย่างเรียนที่โรงเรียนอนุบาลขอนแก่น ในการเสียค่าบำรุงการศึกษาก็ไม่แพง เพราะเป็นโรงเรียนของรัฐบาล การนำลูกมาสมัครจับฉลากในครั้งนี้ ตนเอง ทราบข่าวการสมัครจากการบอกต่อกันมา จึงมาสมัครเรียนที่นี่ ด้วยคาดหวังว่าอนาคตลูกสาวของตนคงศึกษาต่อในโรงเรียนมัธยมที่มีชื่อเสียงของจังหวัดได้ต่อไปได้ในอนาคต
ส่วนเด็กนักเรียน ที่โชคดีในการจับสลาก เข้าเรียนในชั้นอนุบาล 2 โรงเรียนอนุบาลขอนแก่น ในครั้งนี้ ด.ญ. มนัสนันท์ โคตรสมบัติ (น้องแบมบู)คุณแม่ชื่อนางสาว วิลาวรรณ งอยผาลา ทำงานที่อุทยานวิทยาศาสตร์ กล่าวว่า รู้สึกดีใจเป็นอย่างมากที่จับฉลากได้ในครั้งนี้ ซึ่งจะทำให้ได้มีโอกาสพบกับเพื่อนใหม่ ครูใหม่และสถานที่เรียนใหม่ โตขึ้นอยากเป็นหมอ เพื่อมารักษาผู้ป่วยที่ยากจน.