รองผู้ว่าฯขอนแก่น เดือด! แช่งกลางวงประชุม ใครโกงขอให้ฉิบหาย!

รองผู้ว่าฯขอนแก่น เดือด! แช่งกลางวงประชุม ใครโกงขอให้ฉิบหาย!

สมาชิกของสหกรณ์ฯ กว่า 100 คน เดินทางมาติดตามทวงถามความคืบหน้าและขอความชัดเจนจากทางสหกรณ์ฯ หลังจากที่ชาวบ้านตรวจสอบพบความผิดปกติที่เกิดขึ้นหลายกรณี เช่น เงินที่ฝากกับสหกรณ์ฯ หายจากบัญชี ไม่สามารถถอนเงินกับทางสหกรณ์ได้ บางรายได้ทำการปิดยอดหนี้เงินกู้ไปแล้ว แต่กลับพบว่า มีหนี้ใหม่เข้ามาทั้งที่ไม่ได้กู้เป็นเงินหลักแสนบาท ซึ่งที่ผ่านมากลุ่มชาวบ้านได้มีการติดตามทวงถามเรื่องนี้กับทางสหกรณ์ฯ แต่ก็ไม่ได้รับความชัดเจน เนื่องจากมีการบ่ายเบี่ยงมาโดยตลอด

วันนี้ 24 พ.ค.2566 นายชาญชัย ศรศรีวิชัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ถึงกับต้องแช่งที่ สหกรณ์การเกษตรเปือยน้อย อ.เปือยน้อย จ.ขอนแก่น โดยมีกลุ่มชาวบ้านในพื้นที่ อ.เปือยน้อย ที่เป็นสมาชิกของสหกรณ์ฯ กว่า 100 คน หลังเดินทางมาติดตามทวงถามความคืบหน้าและขอความชัดเจนจากทางสหกรณ์ฯ หลังจากที่ชาวบ้านตรวจสอบพบความผิดปกติที่เกิดขึ้นหลายกรณี เช่น เงินที่ฝากกับสหกรณ์ฯ หายจากบัญชี ไม่สามารถถอนเงินกับทางสหกรณ์ได้ บางรายได้ทำการปิดยอดหนี้เงินกู้ไปแล้ว แต่กลับพบว่า มีหนี้ใหม่เข้ามาทั้งที่ไม่ได้กู้เป็นเงินหลักแสนบาท ซึ่งที่ผ่านมากลุ่มชาวบ้านได้มีการติดตามทวงถามเรื่องนี้กับทางสหกรณ์ฯ แต่ก็ไม่ได้รับความชัดเจน เนื่องจากมีการบ่ายเบี่ยงมาโดยตลอด
ในการมาติดตามครั้งนี้มี นายชาญชัย ศรศรีวิชัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น พร้อมด้วยนายอำเภอเปือยน้อย ผู้กำกับการ สภ.เปือยน้อย เจ้าหน้าที่ DSI เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.ขอนแก่น เจ้าหน้าที่สหกรณ์จังหวัดขอนแก่น และกลุ่มชาวบ้านที่เป็นผู้เสียหาย ได้ร่วมกันประชุมติดตามกรณีที่เกิดขึ้น โดยได้มีการเชิญ นายสมศักดิ์ แก้วอาสา ผู้จัดการสหกรณ์การเกษตรเปือยน้อย เข้ามาให้รายละเอียดและตอบข้อสงสัยของเจ้าหน้าที่และชาวบ้าน ซึ่งในวงประชุมฯ นายสมศักดิ์ ยอมรับในวงประชุมว่า มีการบริหารงานสหกรณ์ขาดทุนและขาดสภาพคล่องจริง


โดยในประเด็นที่ชาวบ้านสงสัยเรื่องยอดหนี้ที่เกิดขึ้นทั้งที่ไม่ได้กู้เงิน ได้บอกกับชาวบ้านขอเวลาในการตรวจสอบอย่างละเอียด รวมทั้งจะหากู้เงินจากสถาบันทางการเงินมาคืนให้กับชาวบ้านที่เป็นสมาชิกฯต่อไป
น.ส.รัตติยากร นาทองถม หลานสาวของนางหนูพิน ศรีจันทร์ ชาวบ้านโคกสว่าง อ.เปือยน้อย ซึ่งหนึ่งในผู้สียหาย ได้นำใบเสร็จรับเงิน การปิดยอดชำระหนี้สหกรณ์การเกษตรเปือยน้อย จังหวัดขอนแก่น จำนวน 26,898.98 บาท ลงวันที่ 2 กรกฎาคม 2564 มายื่นต่อเจ้าที่ตรวจสอบบัญชี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หลังจาก ตรวจสอบพบว่า มีหนี้สินที่ยังคงติดค้างสหกรณ์ ถึง 260,000 บาท ทั้งที่ชำระหนี้ไปจนหมดแล้ว ทำให้กังวลว่า จะต้องชดใช้หนี้โดยไม่ได้ก่อ และเกิดความไม่เชื่อมั่นในสหกรณ์ฯ เพราะเชื่อว่านอกจากตนเอง ที่ต้องพบกับปัญหาการเป็นหนี้โดยไม่ได้กู้แล้ว อาจจะมีชาวบ้านรายอื่น ๆ ตกเป็นหนี้ในแบบเดียวกันกับตนเองอีกหรือไม่ หลังจากเกิดเรื่อง จึงได้เข้าตรวจสอบบัญชี กระทั่งพบความผิดปกติ
ด้านนายชาญชัย ศรศรีวิชัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวในที่ประชุมตอนหนึ่งว่า ปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นและสร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านมาตั้งแต่ปี 2559 แต่ผู้บริหารของสหกรณ์ฯ กลับไม่มีการดำเนินการใด ๆ พากันนิ่งเฉยกับเรื่องที่เกิดขึ้น จนทำให้เรื่องบานปลาย สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านมาจนถึงวันนี้ จากการฟังคำชี้แจงของประธานสหกรณ์ฯ ผู้จัดการสหกรณ์ฯ ในวันนี้อยากถามแทนชาวบ้านว่า สิ่งที่ทางสหกรณ์จะแก้ไขให้กับชาวบ้าน คือ การไปกู้เงินกับสถาบันทางการเงิน แล้วถ้าหากกู้ไม่ได้จะทำอย่างไร ชาวบ้านจะทำอย่างไร ซึ่งตลอดหลายปีที่ผ่านมา ผู้บริหารสหกรณ์ทำอะไรกันอยู่จึงปล่อยให้เกิดความเสียหายขนาดนี้ขึ้นได้ ซึ่งเรื่องนี้ตนเองจะติดตามอย่างใกล้ชิด และขอสาปแช่งคนที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตครั้งนี้ขอให้วิบัติทั้งครอบครัว อย่างไรก็ตาม ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบรายละเอียดเรื่องนี้อย่างละเอียดและรอบครอบในทุกประเด็น โดยเฉพาะการขยายผลหาตัวผู้ร่วมกระทำผิดทั้งหมด มาดำเนินคดี เนื่องจากปัจจุบัน มีผู้รับสารภาพเพียง 1 คน แต่ตามหลักกระบวนการทำธุรกรรมใด ๆ ไม่สามารถกระทำได้เพียงคนเดียว


อีกทั้งสหกรณ์ฯ ยังบริหารงานขาดทุน มานานกว่า 7 ปี และยังขาดสภาพคล่องทางการเงินจนทำให้ไม่มีเงินสำรองมาจ่ายให้กับชาวบ้านได้ โดยเบื้องต้นได้ให้ชาวบ้านแต่ละคนนำหลักฐานเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เปือยน้อย ส่วนการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้รายงานความคืบหน้าภายในวันที่ 25 พ.ค.นี้ เพื่อชี้แจงกับชาวบ้าน นอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้ตรวจสอบสหกรณ์ทั้งจังหวัด อีก 189 แห่ง เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับสมาชิก เช่นเดียวกับที่สหกรณ์การเกษตรเปือยน้อย ซึ่งล่าสุดมีผู้ลงชื่อและยื่นหลักฐานในการถูกยักยอกทรัพย์แล้วกว่า 60 คน มูลค่าความเสียหายกว่า 20 ล้านบาท
ภายหลังการประชุมร่วมกันกว่า 3 ชั่วโมง ได้ข้อสรุปเป็นที่ชัดเจน ทำให้กลุ่มชาวบ้านพอใจเป็นอย่างมาก หลังจากที่ทางจังหวัดและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่มาติดตามตรวจสอบ และมีการตั้งคณะกรรมขึ้นมาสอบสวนเรื่องนี้อย่างละเอียดทุกขั้นตอน ชาวบ้านจึงพากันเดินทางกลับ และจะติดตามความคืบหน้าอีกครั้งในสัปดาห์หน้า.

 



เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

แสดงความคิดเห็น