กลุ่มชาวบ้านเกษตรกรกระนวน ขอโทษผ่านสื่อ หลังพาดพิงชื่อนายทุนฯทำให้เสียหาย
เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2566 ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดขอนแก่นรายงานว่า ณ บริเวณ ที่พักญาติ ด้านหน้า ศาลอุทธรณ์ภาค 4 และศาลจังหวัดขอนแก่น อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ได้มี นางอนงค์ ทวีแสง ซึ่งมีถิ่นพำนักพักอาศัยที่อำเภอกระนวนจังหวัดขอนแก่น ซึ่งเป็นตัวแทน ชาวบ้านเกษตรกรอำเภอกระนวน จากกรณีที่ชาวบ้าน เกษตรกร อำเภอกระนวน จังหวัดขอนแก่น รวมตัวกัน ร้องนายกฯตู่ผ่าน กฟก.ขอนแก่น หลังถูกนายทุนเงินกู้ ยึดบ้าน-ที่นา เมื่อวันอังคาร ที่ 09 มีนาคม พ.ศ. 2564 ผ่าน สื่อสังคมออนไลน์ ที่ผ่านมานั้น จนเป็นที่มาของการฟ้องร้อง จากนายทุนว่า เป็นการหมิ่นประมาทด้วยการลงโฆษณาทำให้เสียเสื่อมเสียชื่อเสียง นั้น ต่อมาได้มีการ ไกล่เกลี่ยรอมชอม ขึ้น ซึ่งทางฝ่ายนายทุน ได้มีการแจ้งไปยังกลุ่มเกษตรกรที่ร้องเรียนดังกล่าว ให้ทำการ ขอโทษ ผ่านสื่อ ในกรณีที่ระบุชื่อ และนามสกุลทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง โดยที่จะยอมถอน คดีดังกล่าว ออกจากสารบบศาล
ซึ่งเหตุเกิดเมื่อเวลา 14.30 น.วันที่ 9 มี.ค.2564 ที่ ห้องประชุม ชั้น 2 สำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร สาขาขอนแก่น ต.ท่าพระ อ.เมือง จ.ขอนแก่น ดร.สมยงค์ แก้วสุพรรณ ประธานอนุกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร สาขาจังหวัดขอนแก่น หรืออีกสถานะคือเป็นทนายความ ชั้น 1 ว่าความทั่วราชอาณาจักร เป็น ตัวแทน รับเรื่องร้องเรียน ขอความเป็นธรรม กรณีไม่อุทธรณ์คดีดังกล่าวข้างต้น จากนางอนงค์ ทวีแสง พร้อมด้วย เกษตรกร ที่ได้รับผลกระทบ ความเดือดร้อน จากการปล่อยเงินกู้นอกระบบ ขอความเป็นธรรม กรณีไม่อุทธรณ์คดี ของสำนักงานอัยการสูงสุด โดยมี นายชูไทย วงศ์บุญมี ซึ่งเป็นคณะอนุกรรมการฟื้นฟูฯ นางสาวอภิญญา อุทัยแสน พนักงานอาวุโส รักษาการในตำแหน่งหัวหน้า สำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร สาขา จังหวัดขอนแก่น (ในขณะนั้น) รับเรื่องร้องเรียนดังกล่าว
โดยมีนางจันทรา จันทราเทพ อายุ 66 ปี อาชีพเกษตรกร อยู่บ้านเลขที่ 102 บ้านหนองแคตำบลหนองโก อำเภอกระนวน จังหวัดขอนแก่น กล่าวถึงความเป็นมาว่าตนมาวันนี้เพื่อมา ขอโทษต่อนายทุนที่ได้กล่าวพาดพิง ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงวงศ์ตระกูล ขอบคุณต่อท่านนายทุน ที่ไม่ติดใจเอาความ ถอนคดีดังกล่าว ออกจากระบบศาล ซึ่ง ต่อไป จะไม่ทำให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะแบบนี้เกิดขึ้นอีก ก็ควรปล่อยไปตามกระบวนการยุติธรรมที่จะดำเนินการ ในวันข้างหน้าต่อไป
ด้านนางอนงค์ ทวีแสง ตัวแทน ชาวบ้านเกษตรกรอำเภอกระนวน ที่ถูกนายทุน ฟ้องข้อหาหมิ่นประมาท กล่าวว่า เนื่องจากนายทุนที่เราไปยื่นหนังสือต่อ ดร.สมยงค์ แก้วสุพรรณประธานอนุกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร สาขาจังหวัดขอนแก่น หรืออีกสถานะคือเป็นทนายความ ชั้น 1 ว่าความทั่วราชอาณาจักร เป็น ตัวแทน รับเรื่องร้องเรียน ขอความเป็นธรรม กรณีดังกล่าว ที่สำนักงานกองทุนฟื้นฟู และพัฒนาเกษตรกรจังหวัดขอนแก่น ได้ฟ้องร้องเราว่าหมิ่นประมาททำให้เสียชื่อเสียง โดยการโฆษณา ได้เรียกค่าเสียหาย จำนวน 500,000 บาท แต่พอมาขึ้นศาลเขาจะถอนคดีให้ก็ต่อเมื่อเรา ขอโทษเขาโดยการออกสื่อ ที่ทำให้เขาเสียหายด้วยการ ลงโฆษณา ส่วนเจตนาที่เราไปยื่นหนังสือต่อ ประธานอนุกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรจังหวัดขอนแก่น ในครั้งนั้น ก็เพราะว่าพวกเราทั้งหมดทั้ง 9 คนได้เป็นสมาชิกของกองทุนฟื้นฟูพัฒนาเกษตรกรจังหวัดขอนแก่น ซึ่งมีหน้าที่แก้ไขหนี้สิน และใช้หนี้ให้ของเกษตรกร และพัฒนาอาชีพให้เกษตรกร ที่ขึ้นทะเบียนหนี้ไว้กับพวกเรา ส่วนประเด็นที่ 2 คือท่าน ดร.สมยงค์ ก็เป็นทนายความ พวกเราถูกฟ้องร้อง ก็เลยเข้าไปหาท่าน เพื่อให้ท่านช่วยเหลือในด้านคดี เพราะท่านจะคอยช่วยเหลือด้านคดีให้กับ เกษตรกร และชาวบ้านทั่วไป ประเด็นที่ 3 คือ ดร.สมยงค์ แก้วสุพรรณ ท่านเป็นรองประธานคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดขอนแก่น มีหน้าที่รับเรื่องร้องทุกข์ ของชาวบ้านทั่วไปที่ได้รับเรื่องร้องทุกข์ เพื่อหาทางช่วยเหลือและแก้ไขให้ได้รับความเป็นธรรมและอยู่เย็นเป็นสุข
นางอนงค์ กล่าวอีกว่า ตนเองก็เป็นคณะอนุกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรจังหวัดขอนแก่น พร้อมกับนายชูไทย วงศ์บุญมี ก็เป็นคณะอนุกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรจังหวัดขอนแก่น ซึ่งวันนั้นประชุมอยู่ด้วยกัน ที่สำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรจังหวัดขอนแก่น เลยได้ทำข่าวออกสื่อ ในวันที่ชาวบ้านสมาชิกกองทุนฯ มายื่นหนังสือที่สำนักงานกองทุนฟื้นฟูพัฒนาและเกษตรกรจังหวัดขอนแก่น เพื่อมายื่นหนังสือต่อ ดร.สมยงค์ แก้วสุพรรณ เลยทำให้ นายทุน บอกว่าทำให้เขาเสื่อมเสียชื่อเสียง ส่วนเจตนาข้อที่ 2 ที่พวกเราไป เพื่อปกป้องสิทธิของพวกเราเอง เพราะว่าคดีความที่ศาลอาญารัชดา คดียังไม่ถึงที่สิ้นสุด แต่ว่านายทุนก็ได้มาฟ้องพวกเรา คนละ 4-5-6 คดีก็ทำให้พวกเราเดือดร้อน จึงเข้าไปหาท่าน ดร.สมยงค์ แก้วสุพรรณ เพื่อขอความช่วยเหลือจากท่าน
“แล้วในวันที่พวกเราไป ยื่นหนังสือต่อท่าน ดร.สมยงค์ แก้วสุพรรณ ที่ออกสื่อในวันนั้น ถ้าเป็นข้อความที่คุณแม่จันทรา จันทาเทพ ได้พูดผิดพลาดพลั้งไป โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ทำให้ท่านเสื่อมเสียชื่อเสียง พวกเราทั้ง 9 คนก็ต้องกราบขออภัย และกราบขอโทษท่านนะคะ”นางอนงค์ กล่าว.