“มทบ.23 ขอนแก่น” ซักซ้อมแผนบรรเทาสาธารณภัย ร่วมกับส่วนราชการพลเรือน

“มทบ.23 ขอนแก่น” ซักซ้อมแผนบรรเทาสาธารณภัย ร่วมกับส่วนราชการพลเรือน

เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนแลกเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในงานบรรเทาสาธารณภัยในพื้นที่เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ทบทวนและทราบถึงบทบาทหน้าที่ของหน่วยในงานด้านการบรรเทาสาธารณภัยตามแผนบรรเทาสาธารณภัยในพื้นที่
เมื่อเวลา 11 .00 น วันที่ 17 ก.ค.66 ที่ ห้องราชพฤกษ์ โรงแรมขอนแก่นโฮเต็ล อ.เมือง จ.ขอนแก่น พล.ต.วรพินิจ ขันธุปัฏน์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 23/ ผู้อำนวยการศูนย์บรรเทาสาธารณภัย มณฑลทหารบกที่ 23 ในนามผู้แทนของแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นประธานในพิธีเปิดการซักซ้อมแผนบรรเทาสาธารณภัยร่วมกับส่วนราชการพลเรือน สายงานกิจการพลเรือน ประจำปีงบประมาณ 2566 ครั้งที่ 1โดยมี พ.อ.นรภัทร ปรรณปกรณ์ ผู้อำนวยการกองกิจการมวลชน กรมกิจการพลเรือน ทหารบก กล่าวรายงาน พร้อมด้วย พ.อ.สุรพงษ์ ยอดอินทร์ รอง ผบ.มทบ.23,พ.อ.สุรศักดิ์ สำราญบำรุง รอง ผบ.มทบ.23 ,พ.ต.อ.ลิปปนันท์ สรณ์คุณแก้ว รอง ผบก.ตำรวจตระเวนชายแดน ภาค 2, นายศุภชัย ลีเขาสูง ปลัดจังหวัดขอนแก่น นายสุทธิกุล ภูคำวงศ์ รอง นายก อบจ.ขอนแก่น,นายพิสุทธิ์ อนุตรอังกูร นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลท่าพระ นายมนตรีสิงห์ปุณณกันต์ รองนายกเทศบาลนครขอนแก่น ซึ่งมีผู้เข้าร่วมการซักซ้อนการบรรเทาสาธารณภัยร่วมพลเรือน ในครั้งนี้ประกอบด้วยผู้แทนจากกองทัพภาคที่ 1-4 และมณฑลทหารบกทั้ง 35 หน่วย รวมทั้งผู้แทนหน่วยงานจากส่วนราชการพลเรือนในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น และจังหวัดกาฬสินธุ์ รวมทั้งสิ้น 150 คน
พล.ต.วรพินิจ ขันธุปัฏน์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 23 ผู้อำนวยการศูนย์บรรเทาสาธารณภัยมณฑลทหารบกที่ 23 กล่าวว่า ตามที่ผู้อำนวยการกองบรรเทาสาธารณภัย สำนักกิจการพลเรือน กรมกิจการพลเรือนทหารบก ได้กล่าวรายงานวัตถุประสงค์และสถานการณ์การฝึกซักซ้อมตลอดจนการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิโลกในห้วงที่ผ่านมาส่งผลให้เกิดภัยพิบัติต่างๆในภูมิภาคของโลกไม่ว่าจะเป็นแผ่นดินไหวอุทกภัยไปป่าหมอกควันหรือภัยพิบัติอื่นๆขอให้เกิดผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของประชากรโลกรวมทั้งในพื้นที่ทุกภูมิภาคของประเทศไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้


พล.ต.วรพินิจ กล่าวอีกว่า กองทัพบกในฐานะที่เป็นหน่วยงานของรัฐบาลมีหน้าที่สนับสนุนการปฏิบัติภารกิจของส่วนราชการอื่นๆทั้งในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยและการช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยพิบัติในพื้นที่ต่างๆ จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเข้าใจบทบาทและหน้าที่ทั้งในเรื่องระบบการบังคับบัญชาการติดต่อสื่อสารและการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวมถึงการปฏิบัติงานให้สอดคล้องกับหน่วยงานที่รับผิดชอบในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยคือกระทรวงมหาดไทย
พล.ต.วรพินิจ กล่าวต่อไปว่า สำหรับการฝึกซ้อมแผนบรรเทาสาธารณภัยร่วมกับส่วนราชการพลเรือนในครั้งนี้ผลลัพธ์ที่ต้องการอย่างหนึ่งคือการเตรียมความพร้อมของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อรองรับสถานการณ์ภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้นในพื้นที่รับผิดชอบ อีกทั้งกองทัพบก ยังให้ความสำคัญกับการเตรียมความพร้อมในการรับมือ ตามขั้นตอนปฏิบัติร่วมกับหน่วยงานอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเพื่อบูรณาการทั้งในด้านการเตรียมกำลังยุทโธปกรณ์ และเครื่องมือเครื่องจักรใช้ต่างๆให้สามารถปฏิบัติงานเกื้อกูลกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะส่งผลให้เกิดความสูญเสียทั้งต่อชีวิต และทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนให้น้อยที่สุดโดยถือว่าเป็นนโยบายที่สำคัญของรัฐบาล


ด้าน พ.อ.นรภัทร ปรรณปกรณ์ ผู้อำนวยการกองกิจการมวลชน กรมกิจการพลเรือนทหารบก กล่าวว่า ตามที่ผู้บัญชาการทหารบกได้กรุณา อนุมัติให้กรมกิจการพลเรือนทหารบกจัดการซักซ้อมแผนบรรเทาสาธารณภัย ร่วมกับส่วนราชการพลเรือนสายงานกิจการพลเรือนประจำปีงบประมาณ 2566 ครั้งที่ 1 ระหว่างวันที่ 17-21 กรกฎาคม 2566 เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนแลกเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในงานบรรเทาสาธารณภัยในพื้นที่เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ทบทวนและทราบถึงบทบาทหน้าที่ของหน่วยในงานด้านการบรรเทาสาธารณภัย ตามแผนบรรเทาสาธารณภัยในพื้นที่ โดยเฉพาะมณฑลทหารบกซึ่งเป็นหน่วยในการบูรณาการหน่วยทหารในพื้นที่รับผิดชอบ ที่จะต้องการช่วยเหลือประชาชนเมื่อเกิดภัยพิบัติ
รวมถึงให้หน่วยมีความเข้าใจในฐานะที่เป็นหน่วยสนับสนุนในระบบบัญชาการเหตุการณ์ในภาวะฉุกเฉินที่อำนวยการโดยหน่วยงานของกระทรวงมหาดไทยตามแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติและแผนบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงกลาโหม วัตถุประสงค์อีกประการหนึ่งคือให้หน่วยได้เข้าใจถึงแนวทางการฝึกตามหลักสูตรการบรรเทาสาธารณภัยและช่วยเหลือประชาชนระดับมณฑลทหารบก ที่กรมกิจการพลเรือนทหารบก ได้จากการขึ้นในปี 2566 นี้โดยได้จัดสรรงบประมาณให้กับหน่วยเรื่องดำเนินการในพื้นที่รับผิดชอบตั้งแต่ปีงบประมาณ 2567 เป็นต้นไป.



เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

แสดงความคิดเห็น